Wednesday, 24 April 2024
NEWS

‘Mekha V’ รับรางวัล ‘Microsoft Partner of the Year 2022’ ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.

 


เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

 

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมาย หรือยัง ?

วันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี - นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ กัญชาเสรีแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมาย หรือยัง

 

โดยผู้จัดงานได้กล่าวว่า ปัจจุบันได้เกิดข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขว้างในประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าหลังจากที่มีการประกาศห้าม การนําเข้าและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าออกมาจากทางรัฐบาล โดยมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

 

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์การสูบชนิดหนึ่งที่มีสารเคมีต่าง ๆ ผสมอยู่ซึ่งให้โทษต่อผู้ที่สูบไม่น้อยกว่าบุหรี่มวน แต่กลับไม่ได้ยอมรับการผลิตตามมาตรฐาน เนื่องจากผิดกฎหมาย แต่ก็ยังพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะกันทั่วไปทั้งในและนอก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

โดยภายในงานเสวนา นายชัยวุฒิ ได้เปิดเผยว่า อยากให้มีการจัดงานเวทีเสวนาแบบนี้ เพื่อส่งเสียงของประชาชนให้ถึงผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ตนเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น นิโคตินต่อร่างกาย แต่หากคิดในมุมอันตรายต่อร่างกายอย่างเดียวหลายเรื่องก็ไปไหนไม่ได้ เพราะภายในกาแฟก็มีคาเฟอิน

 

ซึ่งหากดื่มมาก ๆ ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเหมือนกัน แต่เราควรมองในมุมที่ว่าหากต้องการเลิกสูบบุหรี่จริง แล้วต้องการหาบุหรี่ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ตนจึงอยากให้สิ่งนี้ถูกกฎหมาย

 

โดยนายชัยวุฒิได้เน้นย้ำว่า “เราต้องยอมรับว่าการปิดกั้นบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปมันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง” ไม่สามารถที่จะตรวจสอบการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าได้

 

เกิดการรับส่วย เป็นระบบขบวนการ นอกจากนี้นายชัยวุฒิได้แจ้งต่อว่ายังมีกฏหมายอีกหลายอย่างที่ล้าหลังประเทศไทยต้องปรับ เช่น การซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดลิเวอรี่ หรือ การพนันออนไลน์ที่คนไทยมีการเล่นพนันจริง ๆ

 

แต่เราไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะผู้ให้บริการเปิดระบบข้างนอกประเทศไทย แล้วทำไมเราไม่ลองทำของเราเอง ดังนั้นจึงอยากฝากให้ทุกคนช่วยกันส่งเสียงเรื่องที่ควรแก้ไขให้มีการปรับปรุงต่อไป

 

สำหรับโครงการเสวนาในครั้งนี้ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล็งเห็นถึงความสําคัญในการจัดทําโครงการนี้ขึ้น

 

เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ตระหนักและเข้าใจถึงโทษ และผลกระทบของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือการสูดดมควันจากบุหรี่ไฟฟ้า และประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายหรือไม่ จะเป็นไปในทิศทางใด ในความคิดของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ปตท. ติดอันดับมูลค่าแบรนด์องค์กรสูงสุด และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท. ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน 500 แบรนด์แรกของโลกที่มีมูลค่าสูงสุดกว่าหนึ่งพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดอันดับที่ 24 ของโลก จากการประเมินของ Brand Finance Global บริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการประเมินมูลค่าแบรนด์ชั้นนำของโลก ตอกย้ำศักยภาพการขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ

 

Brand Finance Global ได้ประเมิน ปตท. จากการเติบโตของผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจน้ำมัน รวมถึงการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมและฟื้นฟูการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผลของการดำเนินงานที่เด่นชัดดังกล่าว ส่งผลให้เกิดมูลค่าแบรนด์ที่แข็งแกร่งทัดเทียมแบรนด์ในระดับสากล

 

Mr. Alex Haigh, Managing Director - Asia Pacific of Brand Finance กล่าวว่า อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติได้เข้าสู่ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปเป็นการใช้พลังงานทดแทนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากผลกระทบของโรคระบาดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำด้านพลังงานเห็นถึงความสำคัญและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยปรับกลยุทธ์สู่การดำเนินธุรกิจพลังงานครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานของการคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน

 

นายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า การติดอันดับองค์กรที่มีมูลค่าแบรนด์สูงสุดและเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งสูงสุดของโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของ ปตท. ที่แสดงให้เห็นถึงการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ ภายใต้วิสัยทัศน์ Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต

 

ปตท. พร้อมเป็นพลังสนับสนุนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการพัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตและการก้าวสู่ธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล (AI & Robotics & Digitalization) เป็นต้น

 

 

Battery Technology for All

ปตท. ผนึกกำลัง นูออโว พลัส ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All พัฒนาเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่ มุ่งสู่ Net Zero

เมื่อไม่นานมานี้ นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Battery Technology for All

ซึ่งเป็นการลงนามระหว่าง ดร.ยุทธนา สุวรรณโชติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สถาบันนวัตกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นายทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ในฐานะ กรรมการ บริษัท นูออโว พลัส จำกัด เพื่อร่วมมือกันในการดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านแบตเตอรี่

การผนึกกำลังของ ปตท. และ นูออโว พลัส ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้มั่นคงอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินการในโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อีกทั้งยังเป็นการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยมีเจตจำนงในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมในอนาคต

 

ประธานเปิดงานทำบุญผะเหวด เทศน์มหาชาติ

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากวัดคลองแอนพัฒนาราม หมู่ 8 ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานทำบุญผะเหวด เทศน์มหาชาติ โดยมีนายเสวก ประเสริฐสุข ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.1 ปทุมธานี หัวหน้าทีมพลังประชารัฐ พัฒนาปทุมธานี พร้อมด้วย ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.3 ปทุมธานี สังกัดพรรคพลังประชารัฐเจ้าของพื้นที่และนายนพดล ลัดดาแย้ม ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.2 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.4 นายวิรัช พยุงวงษ์ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.5 ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.6 น.ส กฤษณา วงศ์คำ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.7 พร้อมสมาชิกพรรคพลังประชารัฐจังหวัดปทุมธานีและพี่น้อง ประชาชนให้การต้อนรับแบบเป็นกันเองและอบอุ่น

 


ต่อมาได้สอบถาม ดร.ปรีชา ชื่นชนกพิบูล ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.3 ปทุมธานี พรรคพลังประชารัฐ เจ้าของพื้นที่กล่าวเพิ่มเติมว่าขอชื่นชมคณะผู้จัดงานจากชมรม ไทย – อีสาน ปทุมธานี และพี่น้องชาวอีสานที่มาประกอบอาชีพอยู่ในจังหวัดปทุมธานี ประมาณ 70% ของแรงงานทุกภาคส่วนบุญผะเหวด

 

หรือบุญมหาชาติ บุญประจำเดือนสี่ ตามฮิตสิบสองที่ชาวอีสานยังสืบสานเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น บุญผะเหวด มีความ เกี่ยวข้องกับชาดก เรื่องพระเวสสันดรชาดก ที่แสดงบารมี 10 ประการของพระชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้า ที่ได้ทรงเพียรบำเพ็ญเพื่อจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในภาษาอีสาน จะออกเสียง “พระเวส” เป็น “ผะเหวด” จึงเป็นชื่อเรียกบุญนี้ว่า “บุญผะเหวด”บ้างก็เรียก “บุญมหาชาติ”

 

เพราะเป็นชาติกาลที่สำคัญที่สุดของพระพุทธเจ้าที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเทศน์มาลัยหมื่นมาลัยแสนว่า พระผู้จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตคือ พระศรีอริยเมตไตย์ ใครอยากจะพบเห็นท่านและร่วมในศาสนาของท่าน จะต้องไม่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฆ่าสมณชีพราหมณ์ ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน และจะต้องฟังเทศน์ผะเหวด หรือเทศน์พระเวสสันดรชาดกทั้ง 13 กัณฑ์ให้จบในหนึ่งวันถือว่าได้อนิสงฆ์มาก แม้นแต่น้ำมนต์ที่ตั้งไว้ในขณะเทศน์ก็จะนำมาประพรมเพื่อกันเสนียดจัญไรได้

 

การจัดงานบุญผะเหวดนิยมจัดกันในช่วงเดือน 3-4 หรือราวเดือน กุมภาพันธ์ – มีนาคม ใช้เวลาในการจัดงานราว 3 วัน หมู่บ้านหรือชุมชนใดจะจัดงานบุญนี้ก็จะมีการบอกกล่าวพี่น้อง หรือหมู่บ้านใกล้เคียงให้มาช่วย และร่วมบุญกัน ทำให้เกิดสายสัมพันธ์ ก้าวข้ามความขัดแย้งเกิดความสามัคคี พร้อมที่จะพัฒนาในพื้นที่ไปด้วยกัน

ต้อนรับอย่างอบอุ่น ชาวปทุมแห่ต้อนรับ " นักสนุกเกอร์ระดับโลก " ก่อนพาชิมของอร่อยประจำจังหวัด

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 เวลา 15.00 น. ที่สวนเทพปทุม ริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศาลากลางหลังเก่า ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี  พร้อมด้วยทีมงาน อบจ.ปทุมธานี ร่วมกับ สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย และ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด จัดการ และแฟนนักสนุกเกอร์ให้การต้อนรับคณะนักกีฬาสนุกเกอร์ระดับโลก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 30 คน ในการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดง เวิลด์ แชมป์เปี้ยนชีพ 2023 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดปทุมธานี 

 

บรรยากาศแฟนนักสนุกเกอร์ยืนตั้งแถวต้อนรับนักสนุกเกอร์ที่จะร่วมในการแข่งขันปทุมธานี 6 แดง ชิงแชมป์โลก 2023 "Pathum Thani 6 Red World Championship 2023" ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีนักสนุกเกอร์อาชีพชื่อดังของโลก 

 

ประกอบด้วย สตีเฟน แม็คไกวร์, รอนนี่ โอซุลลิแวน, จัดด์ ทรัมพ์, มาร์ค เซลบี้, จอห์น ฮิกกินส์, มาร์ค วิลเลียมส์, ฌอน เมอร์ฟีย์, แบรี่ ฮอว์กินส์, ลูก้า บรีเซล, สจ๊วต บิงแฮม, มาร์ค อัลเลน, โฮเซน วาเฟย์, ริคกี้ วอลเด้น, อาลี คาร์เตอร์, จิมมี่ โรเบิร์ตสัน, คริส เวคลิน, จาง อันตะ, ติง จนฮุย, เคน โดเฮร์ตี้, จิมมี่ ไวท์, อองเดรส์ เปตรอฟ, มาห์มูด แอล ฮารี่ดี้ และ สแตน มูดี้ พร้อมด้วย 8 สอยคิวตัวแทนประทศไทย ประกอบด้วย "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ, "เอฟวัน" เทพไซยา อุ่นหนู, "แจ็ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง, "มิ้ง สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย,"นุ้ก สงขลา" กฤษณัส เลิศสัตยาทร, "นุ๊ก คอนหวัน" ปรมินทร์ ด่านจิรกุล, "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม และ "ซันนี่ สายล่อฟ้า" อรรคนิธิ ส่งเสริมสวัสดิ์ 

 

ทั้งนักสนุกเกอร์และผู้จัดงานได้ขึ้นขบวนรถแห่ ตามเส้นทางรอบตลาดเมืองปทุมธานี มุ่งสู่มารีน่า แจ๊ส คอนโด ตำบลบางโพธิ์เหนือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี รวมระยะทาง 3 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีประชาชนให้การตอนรับนักกีฬาสนุกเกอร์คล้องพวงมาลัย และชิมอาหารของอร่อยเมืองปทุมธานี ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวเรือโกฮับ เมี่ยงกลีบบัวป้าต้อย ขนมถ้วยคุณสมควร ข้าวแช่รามันคุณส้ม ลูกชุบคุณอ้อ ไวน์ไนฟ์แบล็คฮอร์ส ถือเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองปทุมธานีที่ได้ต้อนรับนักกีฬาระดับโลก 

 

และเป็นการเอานักกีฬาสนุกเกอร์อาชีพระดับโลกมาแข่งขันมากที่สุดในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่มีการแข่งขันสนุกเกอร์ 6 แดงชิงแชมป์โลกเกิดขึ้นในเมืองไทย พร้อมชิงเงินรางวัลรวมสูงถึง 11 ล้านบาท โดยการแข่งขันจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 11 มีนาคม 2566 ที่ธรรมศาสตร์คอนเวนชั่นเซนเตอร์ (ยิม1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

ชายนั่งรถเข็นขอบคุณ " อนุทิน " หลังรอดชีวิตได้ เพราะนโยบายฟอกไตฟรี

เป็นที่ปลื้มใจของชาวเน็ต หลัง อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่มีประชาชนขอเข้ามาขอบคุณถึงนโยบายฟอกไตฟรี ของพรรคภูมิใจไทยว่า

 

“มีวันนี้เพราะพี่หนูให้

 

"ขอผมเจอท่านหน่อย" 

 

ที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ ปทุมธานี หลังการหาเสียง 

ชายนั่งรถเข็นสะกิดทีมงานหัวหน้าอนุทิน เผอิญว่า หัวหน้าหนูได้ยินเลยหันไปสวัสดี 

 

"ผมเป็นโรคไต เกือบตายมาแล้วก็หลายครั้ง แต่ผมรอดมาได้เพราะนโยบายฟอกไตฟรีของท่าน" 

 

หัวหน้าหนู จึงได้ถามถึงเรื่องการให้บริการ ชายคนนี้ยกมือนิ้วโป้ง บอกยอดเยี่ยม 

 

"ผมมีชีวิต จนถึงวันนี้ เพราะนโยบายของท่าน” และนี่คือเบื้องหลังของภาพทั้งหมด”

"อนุทิน" จับมือ "บิ๊กแจ๊ส"ลั่น จะสร้าง "โมโนเรล" ให้ปทุม หากคว้า ส.ส.แบบยกจังหวัด

5 มีนาคม 2566 ที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าท์ จังหวัดปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะผู้บริหารพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย, นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ช่วยนางสาว ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย แนะนำนโยบาย มีประชาชนกว่า 1,500 คน ต้อนรับ

.

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทย เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ที่มาฟังตนวันนี้ ก็มีผู้สูงวัยไม่น้อย พรรคภูมิใจไทยไม่ลืมพวกท่าน เรามีนโยบายผู้สูงอายุ คือ เมื่อท่านอายุ 60 ปีขึ้นไป เราให้สิทธิ์ท่านเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันที โดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ให้สิทธิ์กู้เงินดูแลตัวเอง และ ประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้ 

.

"ท่านมีเงิน 20,000 บาทใช้ จากกรมธรรม์ของท่านเอง ไม่ต้องไปใช้ของลูกหลาน เมื่อท่านจากไป ท่านยังทิ้งมรดกให้ลูกหลานอีก 100,000 บาท" 

.

จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนโยบายขึ้นค่าตอบแทน อสม.เป็น 2,000 บาทต่อเดือน, นโยบายพักหนี้ 1,000,000 บาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย , นโยบายด้านการสาธารณสุข อาทิ การจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งมาติดตั้งไว้ทุกจังหวัด และการสร้างศูนย์ไตเทียมในทุกอำเภอ โดยนายอนุทิน ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย หาเสียง เฉพาะในสิ่งที่ทำได้ เพราะพรรคภูมิใจไทย พูดจริงทำจริง จากนั้น ได้มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี 

.

"ผมเจอท่าน และท่านฝากทีมของท่านไว้กับผม ซึ่งท่านแนะนำว่า ให้ประกาศไปเลยว่า หากภูมิใจไทยคว้า ส.ส.แบบยกจังหวัด จะสร้างโมโนเรลให้ชาวปทุมธานี ซึ่งทาง อบจ. พร้อมสนับสนุน  ผมเลยบอกว่า จะได้กี่คน ผมก็จะประกาศนโยบายนี้ เพราะดูแล้วเป็นนโยบายที่ชาวปทุมฯ ต้องการ ผมขอบคุณท่านคำรณวิทย์ ท่านรู้ว่าพี่น้องต้องการอะไร และท่านก็อยากช่วยเหลือเต็มที่ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เราจะตอกเสาเข็มเพิ่ม ยิ่งท่านวางใจเรา เราก็ยิ่งมีพาวเวอร์ในการทำงานรับใช้ท่าน"

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี พรรคภูมิใจไทย ประกอบไปด้วย นายนพพร ขาวขำ ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 1, พล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 2, นายอนาวิล รัตนสถาพร ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 3, นางสาว ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี 4 , นายพิษณุ พลธี ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 5, นายเอกชัย ศรีสุขชยะกุล ผู้สมัคร ส.ส.จ.ปทุมธานี เขต 6 และนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ผู้สมัคร ส.ส.จ. ปทุมธานี เขต7

น้อมถวายมุทิตาสักการะ พระธรรมวชิรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) ในโอกาสรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

น้อมถวายมุทิตาสักการะ

พระธรรมวชิรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) 

ในโอกาสรับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร โดยจะมีพิธีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มีนาคม 2566 นี้

.

สำหรับประวัติ ของ พระธรรมวชิรญาณ เกิดวันที่ 11 ต.ค. 2496 ที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นพระมหาเถระด้านวิปัสสนากรรมฐาน ที่ผ่านมาได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสำคัญทางคณะสงฆ์มาโดยตลอด ปี 2558 เป็น พระอุปัชฌาย์ ประเภทวิสามัญ ปี 2559 เป็น ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธ) ปี 2559 เป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธ) ปี 2561 เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ปี 2565 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดบวรฯ.

.

ลำดับสมณศักดิ์ ปี 2540 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระโสภณคณาภรณ์ ปี 2548 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชวิสุทธิญาณ ปี 2558 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระเทพสังวรญาณ ปี 2564 เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระธรรมวชิรญาณ.

.

5 ธันวาคม 2558 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระเทพสังวรญาณ ภาวนาวิธานดิลก ตรีปิฎกวราลงกรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี , 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่ พระธรรมวชิรญาณ ปฏิภาณธรรมสาธก วิปัสสนาวิธานดิลก ตรีปิฎกวราลงกรณ์ ยติคณิสสร

.

ด้านลำดับเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ที่ผ่านมานับแต่อดีต มีเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน 8 รูป ได้แก่ 

.

1. สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามงกุฎ หรือ พระวชิรญาณเถระ พ.ศ. 2380 - พ.ศ. 2394

.

2. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ พ.ศ. 2394 - พ.ศ. 2435

.

3. สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พ.ศ. 2435 - พ.ศ. 2464

.

4. สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พ.ศ. 2464 - พ.ศ. 2501

.

5. พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) พ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2504

.

6. สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร พ.ศ. 2504 - พ.ศ. 2556

.

7. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) พ.ศ. 2558 - พ.ศ. 2565

.

8. พระธรรมวชิรญาณ (จิรพล อธิจิตฺโต) พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป

.

ที่มา : The States Times

" อนุทิน " อ้อนอยุธยา เลือก " ภูมิใจไทย " ยกจังหวัด

5 มีนาคม 2566 ที่วัดบางเพลิง อำเภอบางประหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ประกอบด้วย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ชนม์ทิดา อัศวเหม ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คือ นายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่หาเสียง

.

ซึ่งในกิจกรรมดังกล่าว มีผู้สมัครเขตอื่นลงพื้นที่ด้วย เช่น นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 1 และนายประดิษฐ์ สังขจาย ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา เขต 5 โดยมีประชาชน ต้อนรับกว่า 2,000 คน

.

นายอนุทิน กล่าวว่า เรามาอยู่ตรงนี้ เพื่อมาขอคะแนนจากพี่น้องชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งนายนพ ชีวานันท์ เป็นคนคุ้นเคยของทุกท่าน ที่มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะเราต่างก็อยากให้อยุธยาพัฒนาขึ้น อยากให้พี่น้อง มีความสุข มีเงินทอง เราไม่ได้มาเพื่อหาเสียงให้ใครคนหนึ่ง แต่เราขอให้ท่านเลือกเราแบบยกจังหวัด เพื่อสร้างอำนาจของคนอยุธยาให้เกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร 

 

.

“ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีเกษตรกรจำนวนมาก มีชาวนาจำนวนมาก ที่ผ่านมายากลำบาก ลงทุน ลงแรง แต่ไม่รู้ราคาขาย เจอน้ำท่วม เจอแล้ง ก็มีแต่ขาดทุน เรื่องแบบนี้ต้องจบ ท่านมีพระคุณกับประเทศชาติ เพราะคนไทยกินข้าวเป็นหลัก ข้าวของท่านเลี้ยงดูคนหลายสิบล้าน คน เราก็ต้องดูแลท่าน จากนี้ ถ้าเราได้ทำงาน ชาวนา เกษตรกร จะรู้ราคาผลผลิตก่อนการลงทุน และเมื่อเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติระหว่างปลูก ภาครัฐจะเข้าไปประกันความเสียหาย มันจะไม่มีใครมาเอาเปรียบท่าน ทุกอย่างจะเป็นระบบ นี่คือ “คอนแทรค ฟาร์มมิ่ง” พวกท่านจะอยู่ดี กินดีขึ้น ผมมั่นใจ เพราะเราพูดจริง เราทำจริง พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” นายอนุทิน ระบุ

.

สำหรับผู้สมัคร ส.ส. จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วย นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นายนพ ชีวานันท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 และนายประดิษฐ์ สังขจาย ผู้สมัคร ส.ส. เขต 5

เลขาสันติ - รองชัยวุฒิ พรรคพลังประชารัฐ นำทัพ ทีมว่าที่สมัคร สส. ปทุมธานี ครบทั้ง 7 เขต ขึ้นปราศรัยใหญ่

4 มี.ค.66 เมื่อเวลา 19.00 น.ที่เวทีปราศรัย ณ สวนบริษัท เคเอสเอส อินเตอร์เทคกรุ๊ป ย่านคลองสาม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำว่าที่ผู้สมัครจังหวัดปทุมธานีทั้ง 7 เขต ได้แก่ เขต 1 นายเสวก ประเสริฐสุข, เขต 2 นายนพดล ลัดดาแย้ม,เขต 3 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล,เขต 4 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า,เขต 5 นายวิรัช พยุงวงษ์,เขต 6 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง,และ เขต 7 น.ส.กฤษณา วงศ์คำ ขึ้นเวทีปราศรัยพบประชาชน

.

นายสันติ กล่าวว่า ตนดีใจที่วันนี้ชาวปทุมธานีให้การต้อนรับผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐอย่างอบอุ่น ซึ่งทั้ง 7 คน มีความตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนา และแก้ปัญหาให้กับพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานีอย่างแท้จริง ถ้าปทุมธานีให้โอกาสกับตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐทั้งจังหวัด ก็จะเกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน

.

นายสันติ กล่าวต่อว่า ปัญหาต่าง ๆ ที่ชาวปทุมธานีเผชิญอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถติด หรือน้ำท่วม น้ำแล้งรวมไปถึงราคาพืชผลทางการเกษตร เช่น ปุ๋ยแพง หรือแม้กระทั่งการพัฒนาลูกหลานของเรา จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรมผ่านว่าที่ ส.ส.ทั้ง 7 คนนี้ ที่จะเข้าไปเป็นกระบอกเสียงชั้นเยี่ยมให้กับท่าน และจะเป็นปรากฎการณ์ที่ชาวปทุมธานีสร้างพลังอย่างยิ่งใหญ่ ร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เสียงของท่านก็จะดังมากขึ้นอย่างแน่นอน

.

ด้านนายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้ตนขอโอกาสมาพูดคุยกับทุกคน เพื่อเล่าถึงนโยบายดี ๆ ของพรรคพลังประชารัฐ เราต้องยอมรับว่า จังหวัดปทุมธานีเป็นจังหวัดที่มีความพร้อม และศักยภาพที่จะพัฒนาไปได้อีกไกล ตนดีใจแทนชาวปทุมทุกคน ที่มีทีมงานที่เข้มแข็งทั้ง 7 คน ตนคงไม่ต้องอธิบาย ว่าทุกคนเข้มแข็งอย่างไร เพราะชาวปทุมธานีน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ มาจากหลายหลายอาชีพที่จะมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ เพื่อพี่น้องทุกคน แต่วันนี้ยังขาดอยู่อย่างเดียวก็คือ โอกาสจากทุกคน ผมจึงขอให้ชาวปทุมให้โอกาสกับทั้ง 7 คนได้เข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องด้วย 

.

"นโยบายที่เป็นสโลแกนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐก็คือ การก้าวข้ามความขัดแย้ง เราไม่ได้อยากพูดถึงอดีต แต่ต้องยอมรับว่า 8 ปีที่ผ่านมาคนไทยไม่มีความสุข จนวันนี้เห็นภาพที่ชัดเจนแล้วว่า เราสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งได้แล้ว พิสูจน์ได้จากผู้สมัครปทุมธานีของพรรคเรา อย่าง นายกใหญ่ ก็คือแกนนำคนเสื้อแดงมาก่อน ส่วนพี่เกียรติศักดิ์ ก็เคยขึ้นเวที กปปส.มาแล้ว คอการเมืองรู้จักทั้ง 2 คนดี แต่วันนี้ทั้งคู่จับมือกันภายใต้บ้านพลังประชารัฐ ร่วมกันก้าวข้ามความขัดแย้ง อดีตจะเป็นอย่างไร มันจบไปแล้ว ใครที่ยังไม่ยอมก้าวข้ามจากอดีตก็ปล่อยให้จมอยู่กับแบบนั้น วันนี้เราจะจับมือกันเดินไปข้างหน้า เพื่อพัฒนาประเทศและจังหวัดปทุมธานีไปด้วยกัน

.

ด้านนายเสวก ประเสริฐสุข หรือ นายกใหญ่ อดีตรอง นายก อบจ.ปทุมธานี ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 กล่าวปราศรัยว่า ปัญหาของชาวจังหวัดปทุมธานีที่เรื้อรังมาโดยตลอดคือเรื่องการคมนาคม ถนน หนทางที่ยังมีปัญหา วันนี้ผมขอโอกาสเป็นหัวหน้าทีมผู้สมัครปทุมธานีในนามของพรรคพลังประชารัฐ ผมขอเวลาแค่ 4 ปี เพื่อเข้ามาพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ของชาวปทุมธานีให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

.

ทั้งนี้ ในช่วงที่นายสันติกล่าวถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น บัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน หรือ นโยบาย"ดูแลทุกช่วงวัย แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ" เพื่อดูแลสตรีของประเทศ โดยจะดูแลขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนที่ 4 ไปจนถึงคลอดบุตร สนับสนุนเงินเดือนละ 10,000 บาท เป็นจำนวน 5 เดือน และให้การช่วยเหลือเงินเลี้ยงบุตรจำนวนเงิน 3,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 ปี เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับผู้หญิงที่เป็นเพศแม่นั้น ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีอย่างคับคั่ง 

.

ซึ่งนายสันติ ได้กล่าวว่า พรรคของเราจะสร้างความมั่นคงให้กับคนไทยทุกคน ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนเลือกตัวแทนของท่านที่มาจากพรรคพลังประชารัฐเข้าไปในสภา เพื่อยกมือให้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคของเราได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เราจะทำทันทีที่ได้โอกาส

คอบร้าโกลด์ 23 เป็นการฝึกครั้งที่ 42 ในวงรอบปี Light Year

การฝึกร่วมผสม คอบร้าโกลด์ 23 เป็นการฝึกครั้งที่ 42 ในวงรอบปี Light Year ในพื้นที่ จังหวัดลพบุรี ระหว่าง 27 ก.พ. - 10 มี.ค.2566 ซึ่งกองทัพไทย และสหรัฐฯ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพทุกปี เพื่อพัฒนาความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่าง กองทัพไทย, กองทัพสหรัฐฯ และกองทัพมิตรประเทศ

 

ในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการและการอำนวยการยุทธ์ร่วม/ผสม ด้วยกำลังขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพไทย ในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังพล และเป็นไปตาม แนวทางการวางแผนการฝึกร่วมผสม คอบร้าโกลด์ ระหว่างกองทัพไทย และ กกล.สหรัฐฯ ภาคพื้นอินโดแปซิฟิก (USINDOPACOM)

 

และเมื่อวันที่ 2 มี.ค.2566 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ โดย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ จัดกำลังเข้าร่วมทำการฝึกแลกเปลี่ยนระหว่าง กองร้อยทหารราบยานเกราะ BTR และ กองร้อย Stryker กองพันทหารราบที่ 2-3

 

โดยแลกเปลี่ยนความรู้ในเรื่อง การปฐมพยาบาล การส่งกลับผู้ป่วยเจ็บ การบรรทุกยานเกราะ การปฏิบัติของหมวดลาดตระเวน และการยิงอาวุธประจำยานเกราะ ทั้งนี้เป็นการเพิ่มความรู้ ประสบการณ์เป็นการพัฒนาขีดความสามารถ ของหน่วย และกำลังพล ต่อไป

 

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่

เมื่อวันที่ 3 มี.ค.66 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

โดยเวลา 09.00 น. นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ.สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาให้การต้อนรับโดยเฉพาะ นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกอบจ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้นำขนมชื่อดังของดีเมืองอยุธยามาฝากนายกฯ พร้อมกับนั่งพูดคุยอยู่อยู่นานพักใหญ่

 

แล้วเดินทางต่อไปยังวัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้ากราบสักการะพระประธาน นมัสการเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล สักการะพระเจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งนายกฯได้ทำพิธีห่มผ้าพระเจดีย์ชัยมงคล และได้ขึ้นบันได ไปชมกรุด้านบน

 

สักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองผู้ว่าฯ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ

 

นอกจากนี้ยังมีประชาชน ประมาณ 10 คน มายืนถือป้ายให้กำลังใจนายกฯ อาทิ นายกฯประยุทธ์สู้สู้นะจ๊ะ เชียร์นายกลุงตู่เป็นนายกฯคนต่อไป โดนัทยังมีรูลุงตู่ยังมีเรา อยากให้ลุงตู่เป็นนายกนานๆ รักนะจุ๊บๆ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล ได้มอบรูปหล่อพระนเรศวร หน้าตัก 5 นิ้ว ให้กับนายกฯเพื่อเป็นสิริมงคลในการสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

 

ภายหลังจากไหว้ พระพุทธะชินราชเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินไปยังเจดีย์ชัยมงคล โดยระหว่างทางเดินนั้น ใกล้แวะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่งเศส ญี่ปุ่น พร้อมกับพูดคุย และถ่ายภาพร่วมกัน

 

สำหรับบรรยากาศ ที่วัดใหญ่ชัยมงคลมีประชาชนจำนวนหนึ่ง มารอต้อนรับและให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมตะโกน นายกสู้สู้ และยังมีแม่ค้าที่บริเวณวัด ให้ความชื่นชมนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า นายกฯรูปหล่อ อีกด้วย และเป็นที่น่าสังเกตว่า มือขวาของนายกฯนั้น ยังมีอาการบวม เนื่องจากนิ้วล็อคอยู่

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้ทักทายและถ่ายภาพร่วมกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยได้สอบถามว่ามาจากที่ไหน พร้อมกับบอกว่า ขอให้เราภูมิใจที่มี โบราณสถาณที่สวยงาม นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติอย่างอยากมาเที่ยวบ้านเรา พร้อมสอบถามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติว่าเมืองไทยร้อนไหม

 

นายกยังได้กล่าวทักทายกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า ขอให้ทุกคนมีความสุข และทุกอย่างที่ทำ ทำเพื่อประเทศชาติของเรา และนายกย้ำด้วยว่า วันนี้ตนมาตรวจราชการ

 

ระหว่างสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถวายดาบ ซึ่งในช่วงเจ้าหน้าระหว่างยกแท่นวางดาบ ที่อยู่ในฝัก เพื่อให้นายกนำไปถวายนั้น ปรากฏว่า ดาบได้หล่น จากแท่น ลงมาใส่ที่บริเวณท้องแขนของนายกฯเองด้วย ซึ่งสร้างความตกใจเล็กน้อย

 

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์เปิดเผยว่า อธิฐานทุกครั้งให้ชาติบ้านเมืองเป็นสำคัญ ทุกคนเวลามาไหว้นึกถึงคนอื่นเขาด้วย ให้บ้านเมืองปลอดภัย มันคง แข็งแรง เรายังต้องพัฒนาประเทศชาติไปอีกไกลมาก ถ้าไม่ทำกันวันนี้ก็ไปไม่ได้หรอก ไม่สามารถทำอะไรได้เสร็จภายในวันสองวัน อย่างสมเด็จพระนเรศวร ก็ทำมาตั้งนานแล้ว

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา และการจัดแสดงเครื่องทองอยุธยาและพระบรมสารีริกธาตุ

 

และเดินทางไปยังวัดศาลาปูนวรวิหาร สักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาส

 

แล้วเดินทางไปตรวจเยี่ยมสภาพโบราณสถานเพื่อเตรียมการบูรณะ ณ วิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

 

จากนั้น เวลา 14.30 น. นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมบริเวณพื้นที่โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่วัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง

 

โดยนายกรัฐมนตรี กราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร ก่อนไปติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก

 

เพื่อการบริหารจัดการน้ำตลอดลุ่มน้ำเจ้าพระยา อันจะช่วยลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

 

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานคร ในเวลาประมาณ 15.45 น.

 

กองพลทหารม้า

ที่บริเวณสนามบิน กองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พลตรี ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 เป็นประธานในการตรวจสภาพความพร้อมรบ และตรวจสอบการฝึกเป็นหน่วยกองพันเฉพาะกิจ กองพลทหารม้าที่ 1 ประจำปี 2566

 

ซึ่งกำหนดให้ กรมทหารม้าที่ 3 เป็นหน่วยรับผิดชอบจัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ทำการฝึก และตรวจสอบการฝึกเป็นหน่วยกองพันเฉพาะกิจ เพื่อให้ผู้บังคับหน่วย ฝ่ายอำนวยการ ตลอดจนกำลังพลที่บรรจุในหน่วยระดับกองพัน ได้มีความชำนาญ

 

ทั้งในด้านการบังคับบัญชาอำนวยการ และการปฏิบัติในสนาม ตลอดจนมีความคุ้นเคย ในการปฏิบัติร่วมกัน เป็นหน่วยระดับกองพัน จนสามารถปฏิบัติการรบ ในสถานการณ์ทางยุทธวิธีต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อปลูกฝังให้กำลังพลของหน่วย ได้มีความรู้ ความสามารถที่เพิ่มขึ้น บรรลุตามวัตถุประสงค์การฝึก

 

ทั้งนี้ หน่วยได้ดำเนินการฝึก เตรียมการ (ในที่ตั้ง) ห้วงตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และขั้นการตรวจสอบการฝึก (นอกที่ตั้ง) ในห้วงวันที่ 1-8 มีนาคม 2566 โดยใช้พื้นที่ฝึกบริเวณ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์

 

 

สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรเลียในปีนี้

ที่ห้องรับรองขวัญเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ (Dr. Angela Macdonald) เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทยพร้อมคณะ เข้าพบนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อหารือข้อราชการ

 

โดยมี นายรุจติศักดิ์ รังษี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่น นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดขอนแก่น นายวรเชษฐ์ ชาวเหนือ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตร สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมปรึกษาหารือ

 

นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ ในนามจังหวัดขอนแก่น ยินดีที่ไทยและออสเตรเลียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างกัน และมีความร่วมมือที่แน่นแฟ้นทั้งในกรอบทวิภาคี อาเซียน อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกรอบพหุภาคี

 

พร้อมชื่นชมสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียที่ได้จัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 71 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-ออสเตรเลียในปีนี้ หวังว่าทั้งสองประเทศจะใช้โอกาสดังกล่าวขยายความร่วมมือระหว่างกันให้ครอบคลุมแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

 

พร้อมยินดีที่ความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียมีความใกล้ชิด และมีความร่วมมือแน่นแฟ้น ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน ความมั่นคง การศึกษา ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

 

ทั้งทางด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกัน เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม

 

ในช่วงท้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมสนับสนุนการทำงานของเอกอัครราชทูตฯ และเชื่อมั่นว่า ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตฯ จะส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างจังหวัดขอนแก่น และออสเตรเลียให้เพิ่มพูนและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

 

พร้อมอวยพรให้การดำเนินงานตลอดการประจำการที่ประเทศไทยของเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย เป็นนักการทูตอาวุโสประจำกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย โดยก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่ง First Assistant Secretary กรมตะวันออกกลางและแอฟริกา (เทียบเท่าตำแหน่งบริหารระดับสูง - รองปลัดกระทรวง) และ Assistant Secretary ด้านการต่างประเทศ (เทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี) ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (เทียบเท่ากระทรวง)

 

นอกจากนี้ ยังเคยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงาน (Deputy Head of Mission) ประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่ออสเตรเลียในกัวลาลัมเปอร์ และสถานทูตออสเตรเลีย ณ กรุงคาบูล

 

รวมทั้งเคยประจำการในบรัสเซลส์ และเวลลิงตัน ในขณะที่ประจำการ ณ กรุงแคนเบอร์รา เอกอัครราชทูตแมคโดนัลด์ ดำรงตำแหน่ง Assistant Secretary ด้านการบริหารจัดการภาวะวิกฤติ และ Assistant Secretary ด้านรัฐสภาและสื่อสารมวลชน รวมทั้งเป็นเจ้าหน้าที่บริหารของปลัดประจำสำนักนายกฯ และที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

 

 

 


© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top