ผบ.ตร. แถลง ขยายผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “คิงส์โพธิ์ดำ” ผู้ต้องหา 9 ราย ของกลางยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด อายัดทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ภาคกลาง

วันที่ 9 ธ.ค. 65 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, นายประสาร หยงสตาร์ ผอ.ปปส.ภาค1, พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด”คิงส์โพธิ์ดำ” จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ จำนวน 9 ราย ยึดยาบ้า จำนวน 2,220,150 เม็ด ตรวจยึดสารตั้งต้นที่เชื่อว่าใช้ในการผลิตยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน (คาเฟอีน/กาเฟอีน) น้ำหนักประมาณ 1,908.5 กิโลกรัม (ซึ่งสามารถใช้ในการผลิตยาบ้าได้ประมาณ 30 ล้านเม็ด) ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท ณ ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี

ผบ.ตร. กล่าวว่า การจับกุมขยายผลทลายเครือข่ายยาเสพติด “คิงส์โพธิ์ดำ” รายใหญ่ภาคกลางของตำรวจภูธรสระบุรีครั้งนี้ ตำรวจใช้เวลาการสืบสวนติดตามมากว่า 2 เดือน โดยมีการบูณาการร่วมกัน ทั้งตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจ บช.ปส. ตำรวจภูธรภาค 7 และ ตำรวจภูธรภาค 3 ในการประสานให้ข้อมูล ช่วยกันสืบสวนและขยายผลจากผู้เสพ ไปยังผู้ค้ารายย่อย ผู้ค้ารายใหญ่ ผู้ขนลำเลียง และกลุ่มสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด จนสามารถจับกุม เครือข่าย “คิงส์โพธิ์ดำ” ได้ 9 ราย ซึ่งเป็นระดับสั่งการ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 2,220,150 เม็ด ตรวจยึดสารตั้งต้นที่เชื่อว่าใช้ในการผลิตยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน (คาเฟอีน/กาเฟอีน) น้ำหนักประมาณ 1,908.5 กิโลกรัม ซึ่งสามารถใช้ในการผลิตยาบ้าได้ประมาณ 30 ล้านเม็ด ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขยายผลจับกุม ติดตามยึดทรัพย์เพิ่มเติมต้องขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย รวมทั้งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ที่ทำให้การจับกุมเครือข่ายครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้

ทั้งนี้การปราบปรามยาเสพติดดังกล่าวเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหา อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติเป็นรูปธรรมชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชน  ขอความร่วมมือประชาชนในการแจ้งข้อมูล เบาะแส แจ้งข่าวอาชญากรรม ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา ทางหมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 โดยทุกข้อมูลจะดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง