(ปทุมธานี) รมช. เกษตรชวนเที่ยวงาน 'เทศกาลโคนมแห่งชาติ 20-29 ม.ค. ปี 66' ที่ จ.สระบุรี

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ร่วมแถลงข่าวเตรียมจัดงาน 'เทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2566' อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกรไทย และชูศักยภาพการเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมนมของอาเซียน พร้อมจัดเสวนาถกสถานการณ์อุตสาหกรรมโคนม ภายใต้วิกฤติโลกและแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตรกรในอนาคต พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด 'โยเกิร์ตอบกรอบ โพรไบโอ ตราไทย-เดนมาร์ค' ที่เตรียมออกตีตลาดในปีหน้า

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ที่พระองค์ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่ปวงชนชาวไทย และแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนม รวมถึงอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ไปสู่เกษตรกร

โดยกิจกรรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-29 มกราคม 2566 ณ ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค บริเวณเขาตาแป้น อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'พัฒนาอุตสาหกรรมโคนมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า' สำหรับการจัดงานเทศกาลโคนมฯ เกิดจากรัฐบาลได้มีมติให้วันที่ 17 มกราคมของทุกปีเป็นวันโคนมแห่งชาติ จากนั้นมาวันโคนมแห่งชาติจึงถือเป็นวันสำคัญยิ่งต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย อ.ส.ค.ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นเป็นประจำทุกปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยปี 2566 นี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน พร้อมทั้งจะเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ภายในบริเวณงานในวันที่ 20 มกราคม 2566

ปัจจุบันอุตสาหกรรมโคนมไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ โดยประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นศูนย์กลางข้อมูลอุตสาหกรรมนมของอาเซียน กระทรวงเกษตรฯ ได้ให้การส่งเสริมโคนมอาชีพพระราชทาน และพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงโคนมให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความมั่นคง เข้มแข็งในอาชีพ

ในขณะที่ อ.ส.ค. ปัจจุบันเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 'นมไทย-เดนมาร์ค' หรือ 'นมวัวแดง' ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ของฟาร์มเกษตรกรไทย ทำรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 8,700 ล้านบาท มีเกษตรกรในเขตส่งเสริมการเลี้ยงโคนม อ.ส.ค. และปริมาณการผลิตน้ำนมดิบในปี 2565 จำนวนไม่น้อยกว่า 4,355 ฟาร์ม มีจำนวนโค รวม 113,565 ตัว ส่งน้ำนมดิบให้ อ.ส.ค. ประมาณ 581.42 ตัน/วัน โดยพื้นที่ภาคกลางมีสหกรณ์โคนมที่ส่งน้ำนมดิบมากที่สุดคือ จำนวน 14 สหกรณ์ และจำนวนโครีดนม 47,739 ตัว นับว่าเป็นองค์กรที่เคียงข้างเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมาตลอด 60 ปี และจะเร่งผลักดัน อ.ส.ค.ให้เป็นองค์กรชั้นนำด้านอุตสาหกรรมนมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนและตั้งเป้าหมายตลาดสำคัญคือประเทศจีน ประเทศเวียดนาม เนื่องจากเป็นประเทศที่กำลังซื้อสูงและมีสัดส่วนประชากรมาก

รวมทั้งเร่งรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการดื่มนมโคแท้ 100% จากน้ำนมโคที่ได้จากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมประเทศไทย ตลอดจนสืบสาน รักษา ต่อยอด อาชีพการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นอาชีพอันทรงคุณค่า โดยมอบหมายให้ อ.ส.ค.ให้ความสำคัญในการการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จนถึงมือผู้บริโภคต้องได้คุณภาพและมาตรฐาน รวมทั้งสร้างการรับรู้ให้ประชาชนจดจำว่า 'นมวัวแดง นมไทย-เดนมาร์ค นมทุกหยด ผลิตจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม'

ด้านนายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาอุตสาหกรรมโคนม เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ในงานดังกล่าว จะเป็นเวทีสำคัญในการพบปะระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ภาครัฐและเอกชนด้านอุตสาหกรรมนม ได้จัดเวทีแสดงความก้าวหน้าของวิทยาการด้านการเลี้ยงโคนม และอุตสาหกรรมโคนมของประเทศ ผ่านนิทรรศการและการเสวนาร่วมกัน อาทิ นิทรรศการด้านนวัตกรรมการจัดสัดส่วนอาหารสมดุลหน้าฟาร์ม โดยใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มสมรรถนะการผลิตและคุณภาพน้ำนมในฟาร์มโคนมรายย่อย, การศึกษาผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคลัมปี สกินในแม่โค, การรีดนมต่อสมรรถนะการผลิต คุณภาพน้ำนม และสุขภาพโคนมของฟาร์มโคนมรายย่อย, การเฝ้าระวังและควบคุมระดับเซลล์โซมาติกในถังรวมนมของฟาร์มโคนมที่ผลิตน้ำนมดิบมาตรฐานพรีเมี่ยม, การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่ง (ยูเอชที) รสมัลเบอร์รี มัลติวิตามิน และผลิตภัณฑ์นมสเตอริไลซ์สำหรับปรุงอาหารและเบเกอรี่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนาวิชาการโคนม ประจำปี 2566 โดยมีนักวิชาการชั้นนำและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมนมระดับประเทศ ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมเสวนา อาทิ บรรยายพิเศษเรื่อง 'สถานการณ์อุตสาหกรรมโคนมภายใต้วิกฤติโลก และแนวทางการปรับตัวของภาคเกษตรกร : กรณีศึกษาจากนิวซีแลนด์', ฟาร์มโคนม BCG สู่ชุมชนคาร์บอนต่ำ เศรษฐกิจยั่งยืน, การยกระดับฟาร์มโคนมรุ่นใหม่, การผลิตเนื้อโคขุนคุณภาพสูงจากโคนม เป็นต้น

ในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติในปี 2566 นี้ อ.ส.ค. มีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ 'โยเกิร์ตอบกรอบ โพรไบโอ ตราไทย-เดนมาร์ค' (Freeze-Dried Yoghurt Probio (Thai-Denmark Brand) อีกด้วย สำหรับโยเกิร์ตอบกรอบ โพรไบโอ ผลิตจากโยเกิร์ตแท้ที่มาจากน้ำนมโค 100% หมักโดยจุลินทรีย์โยเกิร์ตชนิดโพรไบโอติก ผ่านกระบวนการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง จึงรักษาคุณค่าทางอาหารได้อย่างดี มีเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต โพรไบโอติกมากกว่า 1 ล้านตัว ต่อถุง เป็นสายพันธุ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยรักษาสมดุลของลำไส้และระบบขับถ่าย เชื่อมั่นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด จะตอบโจทย์ตลาดคนรุ่นใหม่ที่รักสุขภาพอย่างแน่นอน

Cr. ภาพ-ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ