ชน 4 คันรวด!! สะพานต่างระดับฉิมพลี ซีวิคเป็นเหตุ สลดตาย 1 สาหัส 1

ซีวิคเสียหลัก เสยท้ายหกล้อ หมุนชนด้านข้างสิบล้อบรรทุกข้าว-กระเด็นเกี่ยวเก๋งบริโอ้ ส่วนซีวิคสภาพพังยับ ตาย 1 เจ็บสาหัส 1

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.66 เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน มีผู้ติดค้างภายในรถ เหตุเกิดบนสะพานต่างระดับฉิมพลี ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางแค แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานยกระดับ เป็นถนน 3 เลน พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพพังยับทั้งคันจอดอยู่เลนขวาสุด ภายในรถมีคนติดอยู่ 2 ราย เป็นชายและหญิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงพาทั้งคู่ออกมาได้ โดยฝ่ายชายได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรชัย แตงอ่อน อายุ 21 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค ส่วนฝ่ายหญิงทราบชื่อ คือ น.ส.สุวิภา มีเค้า อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพชนติดอยู่กับด้านข้างรถบรรทุกหกล้อ สีขาว ทะเบียนนครปฐม มี นายสมชัย จอมขวัญ เป็นคนขับ จอดนิ่งสนิทในลักษณะย้อนศรอยู่เลนกลางถนน นอกจากนี้ ยังมีรถสิบล้อบรรทุกข้าว สีขาว ทะเบียนอุบลราชธานี ได้รับความเสียหายที่ด้านขวาของตัวรถอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานต่างระดับ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

จากการสอบถาม นายบัณฑิต อาสาสู้ อายุ 51 ปี คนขับรถสิบล้อบรรทุกข้าว เปิดเผยว่า ขณะขับรถมาตามเส้นทางปกติเลนซ้ายสุด จนมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสะพานต่างระดับ ขณะนั้นรถบรรทุกหกล้อขับอยู่ในเลนกลางเยื้องไปทางด้านหลัง ส่วนรถเก๋งฮอนด้าบริโอ้ ขับขี่อยู่เลนขวาสุด โดยมีรถเก๋งฮอนด้าซีวิคขับประกบข้างมา ด้วยความเร็วคล้ายแข่งกัน จู่ ๆ รถฮอนด้าซีวิคก็เสียหลักเฉี่ยวชนกับท้ายรถบรรทุกหกล้อ ก่อนพุ่งมาชนท้ายรถตนจนยางล้อหลังระเบิด แรงเหวี่ยงทำให้ตัวรถกระเด็นออกไปจอดนิ่งอยู่ที่เลนขวาสภาพพังยับเยิน ส่วนรถบรรทุกหกล้อก็เสียหลักจากการถูกชนจนหมุนมาชนด้านข้างรถตน และกระเด็นไปเกี่ยวติดกับรถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ ที่กำลังขับแซงเลนขวาสุด ทำให้รถทั้ง 2 คัน หมุนอยู่กลางสะพานอีก 1 รอบ และมาจนจอดนิ่งสนิทที่เลนกลางดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะส่งศพผู้ตายไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ศิริราช พร้อมทั้งจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และนำตัวคนขับรถทั้งหมดไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อน จึงจะสามารถสอบปากคำได้ เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริง และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2594656