ไทยผลิต ปืน-กระสุน ได้มาตราฐาน ลดการซื้อของนอกที่ราคาแพงกว่า

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566 พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เยี่ยมชมแหล่งผลิต อาวุธ ยุทโธปกรณ์แห่งแรกของประเทศ ที่บริษัท เนแรค อาร์มส อินดัสตรี จำกัด เลขที่ 119 หมู่ 13 ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมี พล.อ.วัฒนา นาราคาม อดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนายการสร้างอาวุธ และที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เนแรค อาร์มส อินดัสตรี จำกัด และผู้บริหารให้การต้อนรับ พร้อมร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนให้บริษัทสามารถนำยุทโธกรณ์ต่าง ๆ จำหน่ายไปยังผู้ที่สนใจและเป็นไปตามข้อกฎหมายที่ถูกต้อง

พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า อุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศจำเป็นต้องเกิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในกับประเทศโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมทางทหารของไทย โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการยกระดับประสิทธิภาพให้ก้าวทันเทคโนโลยี บนแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี Guideline for Defence Industrial Development Under the 20-Year National Strategy อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ถือเป็นฐานรากสำคัญและเป็นหลักประกันทางด้านความมั่นคงของประเทศ

อีกทั้งยังสัมพันธ์กับห่วงโซ่เศรษฐกิจ นำสู่การขับเคลื่อนประเทศในวิถีใหม่ ซึ่งถือเป็นหลักประกันด้านความเจริญรุ่งเรืองแบบเบ็ดเสร็จ ประเทศชาติต้องอยู่รอดปลอดภัยได้ ในยามสงครามและในสภาวะวิกฤต การเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะการฝึกซ้อมในยามสงบต้องสามารถกระทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อไทยสามารถผลิตอาวุธเองได้ ภายใต้มาตราฐานสากลก็จะช่วยประหยัดงบประมาณ ในการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศได้จำนวนมาก

สำหรับบริษัท เนแรค อาร์มสอินดัสตรี จำกัด เป็นบริษัทฯ ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ให้ตั้งโรงงานทำ ประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธ เมื่อปี พ.ศ.2553 โดยเริ่มจากการผลิตปลอกกระสุนปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 37 มิลลิเมตร Type 74  และ Type76 ปลอกและหัวกระสุนปืน ขนาด 45 นิ้ว ACP ปลอกกระสุนปืนใหญ่ ขนาด 105 มิลลิเมตร กระสุนปืนลูกซองครบนัด ขนาด 12 เกจ และประกอบรวมครบนัด กระสุนปืนพกทุกขนาดที่ได้รับอนุญาต ภายใต้แบรนด์ NRC และในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ร่วมกับหลายภาคส่วนพัฒนา วิจัย จนสามารถผลิตชนวนหัวลูกระเบิด ขนาด 120 มิลลิเมตร ส่งให้กับหน่วยงานภายในประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่คนไทย สามารถผลิตได้เองและใช้งานได้จริง

ซึ่งบริษัทฯ ได้ยึดมั่นตามแนวทางดำเนินงานตามพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เรื่องการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังเดินตามแนว นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตราที่ 65 พึงจัดให้มียุทธศาสตร์เป็นเป้าหมายพัฒนาประเทศ เพื่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

บริษัทฯ จึงจัดอยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อันดับที่ 11 ในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ทำให้ประเทศมีศักยภาพพร้อมเผชิญภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ และเป็นที่พึ่งพาตนเอง ประหยัดงบประมาณในการนำเข้า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างองค์ความรู้ให้กับคนไทย ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาคเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์จะมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ทั้งด้านโรงงาน และคน

ดังนั้น อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทำในเมืองไทยอิงมาตรฐานระดับโลกอยู่ตลอดเวลา ขอให้มีความเชื่อมั่นไว้วางใจ เพราะมีมาตรฐานที่เทียบเท่ากับมาตรฐานโลก อยากให้ช่วยกันส่งเสริมสนับสนุน  โดยเฉพาะส่วนราชการต่าง ๆ ทหาร ตำรวจ หรือ ข้าราชการพลเรือนทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงหันมาใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ของไทย จะช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งของที่ได้มาตรฐานก็สามารถซ่อมบำรุงได้ง่าย การฝึกก็ยิ่งง่ายไปอีก เพราะทุกอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด ซึ่งอาวุธของไทยจะมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น

พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวอีกว่า วันนี้ บริษัทฯ ได้เชิญมาเพื่อมาดูเอกสารหลักฐานทั้งหมด เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ มีการรับรองความถูกต้องของเอกสารทุกอย่าง ทั้งฝ่ายของต่างประเทศ สถานทูต และทางราชการไทยที่ออกเอกสารมาเป็นกฎหมาย เป็นข้อบังคับ เป็นคำสั่งต่าง ๆ ยืนยันว่าเป็นเอกสารทางราชการที่ถูกออกมาจากหน่วยราชการจริง และก็จะเป็นหลักฐานที่จะยื่นขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มาช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งในเชิงกฎหมายโดยเร็ว

ส่วนประวัติส่วนตัวหลังจากเกษียณอายุแล้ว มีประสบการณ์เรื่องอาวุธ ยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในกองทัพมากมาย จึงมองเห็นความสำคัญและเป็นแรงบันดาลใจที่ได้เข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ โดยความสมัครใจและโดยจิตอาสาไม่มีเงินเดือน ค่าตอบแทนใด ๆ เพื่อไปอยู่อุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า พยายามจะดูแลสมาชิกให้ดีที่สุด สมาคมประกอบด้วย 12 กลุ่มงาน ถ้าทำให้ทั้ง 12 กลุ่มงานมีความสมดุล เชื่อมโยงกันทั้งหมดจะเป็นภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งเราเคยมีมาแต่สมัยโบราณมาแล้ว และมาขาดหายไปช่วงหนึ่ง หลังจากนี้คงต้องมุ่งมั่นภูมิคุ้มกันนี้ให้เกิดขึ้นในชาติให้มีความแข็งแกร่งเหมือนเช่นเดิมที่เคยผ่านมา ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นคงต้องนำเรียนผู้ที่เกี่ยวข้อง และไปเร่งติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว

อย่างไรก็ตามหลังประชุมเสร็จทางคณะได้เยี่ยมชมอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ได้แก่ อาวุธปืนที่ผลิตขึ้นของบริษัทฯ รวมทั้งกระสุนขนาดต่าง ๆ ได้แก่ อาวุธปืนเล็ก NARAC 556 CARBINE (ขนาดติดลำกล้อง 14.5 นิ้ว) และขนาด 20 นิ้ว เป็นผลงานวิจัยพัฒนา สิ่งประดิษฐ์ทางทหาร และนวัตกรรมที่ผลิตขึ้นเองเป็นครั้งแรกของประเทศ โดยมีประกาศรับรองจากกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ลงชื่อโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ถือได้ว่าการผลิตอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนของไทย ได้คุณภาพมาตรฐานสากล ไทยทำเอง ใช้เอง แทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ถูกกว่าครึ่ง แล้วจะไปจ่ายให้แพงกว่าทำไม

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/saichol/2390099