มอบเงินช่วยเหลือผู้เสียชีวิต เหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด รายละกว่า 8 แสน

“สุชาติ” รมว.แรงงาน ส่งที่ปรึกษาฯ “ธิวัลรัตน์ อังกินันทน์” มอบเงินกรณีเสียชีวิต เหตุเรือบรรทุกน้ำมันระเบิด สมุทรสงคราม 7 ราย เฉลี่ยรายละกว่า 8 แสนบาท ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล

วันที่ 19 ม.ค. 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ในการนี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้มอบหมายให้ นางนงลักษณ์ กอวรกุล ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ในจังหวัดสมุทรสงคราม มอบสิทธิประโยชน์เงินทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิต ให้กับทายาทต่างด้าว จากเหตุเรือบรรทุกน้ำมันสมูธซี 22 ระเบิด ภายในบริเวณอู่เรือ บริษัท รวมมิตรค็อดยาร์ด จำกัด ตำบลแหลมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เสียชีวิตขณะนี้ 8 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงความห่วงใยและเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ และกำชับให้กระทรวงแรงงานเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และญาติของลูกจ้างที่เสียชีวิตโดยด่วน ในวันนี้ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ดิฉันเดินทางมามอบสิทธิประโยชน์เงินทดแทนกรณีลูกจ้างที่เสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน จากเหตุระเบิดดังกล่าว เป็นลูกจ้างสัญชาติเมียนมา ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนอยู่ในระบบประกันสังคมแล้ว โดยมอบให้กับทายาทผู้เสียชีวิต ณ วัดปากสมุทร จังหวัดสมุทรสงคราม จำนวน 7 ราย ตามรายชื่อดังนี้

1.) นาย PIKE HTWE ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 6,392.30 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 827,344.30 บาท

2.) นาย WIN BO ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 3,422.83 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 824,374.83 บาท

3.) นาย ZAW MIN LWIN ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 9,312 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 820,984.50 บาท

4.) นาย TIN WIN ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 32.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 821,017 บาท

5.) นาย NAING WIN ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 3,035.74 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 823,987.74 บาท

6.) นาย THIHA ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 9,752.25 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 830,704.25 บาท

7.) นาย KO PHYO ทายาทได้รับเป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต 770,952 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 2,985.36 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 823,937.36 บาท

ส่วนอีก 1 ราย ขณะนี้ศพผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล

นางธิวัลรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ฝากแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกินตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง กรณีลูกจ้างหยุดพักรักษาตัวตามคำสั่งแพทย์ จะได้รับค่าทดแทน 70% ของค่าจ้าง ตั้งแต่วันแรกที่หยุดงานแต่ไม่เกิน 1 ปี กรณีสูญเสียอวัยวะจะได้รับค่าทดแทนเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี ทั้งนี้ ลูกจ้าง จะได้รับการประเมินเมื่อสิ้นสุดการรักษา

อย่างไรก็ดีรัฐบาลมีความห่วงใยแรงงานต่างด้าวทุกคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยและกำชับให้กระทรวงแรงงานให้ความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองตามกฎหมายประกันสังคมอย่างเท่าเทียมกันเช่นเดียวกับแรงงานไทยทุกด้าน ซึ่งกระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมถึงทายาทของผู้เสียชีวิตที่ประสบเหตุให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วน และเข้าถึงผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอนเช่นกัน

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/politic/2607265