เจ้าของแพปลาเศร้า หลังปลาตายทุกกระชัง กว่า 40,000 ตัว สาเหตุคาดว่าโรงงานปล่อยน้ำเสีย

(ราชบุรี) เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2566 นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ พลายมาต ผู้อำนวยการส่วนควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 8 และเจ้าหน้าที่ประมง จังหวัดราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบที่แพปลาริมแม่น้ำแม่กลอง ชื่อ 'แพปลากระสุนทอง' ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 9 หมู่ 3 ตำบลสร้อยฟ้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี หลังได้รับแจ้งว่าปลาทับทิมที่เลี้ยงในกระชังนั้นลอยตายหมดทุกกระชัง โดยพบว่าแพในกระชังทั้งหมด 52 กระชัง และมีทุกขนาดของปลา ตั้งแต่ปลาอนุบาลไปจนถึงปลาตัวโตเต็มวัยที่กำลังจะจับขายในอาทิตย์หน้านี้ ได้ลอยตายเป็นแพ

จากการสอบถามนายประสานสุข พินพิสุทธ์ ซึ่งเป็นเจ้าของแพปลาดังกล่าวก็บอกว่า เลี้ยงปลากระชังทั้งหมด 52 กระชัง เป็นปลาทับทิมที่เตรียมจะจับขายได้ ซึ่งลงทุนการเลี้ยงนั้นมีหลายขนาดของปลา แต่คาดว่าน่าจะหลักล้านบาท ซึ่งทั้งนี้ต้องไปคำนวณอีกครั้ง ส่วนที่มาพบว่าปลาเริ่มลอยหัวตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ซึ่งคนงานโทรศัพท์ไปบอก แต่เนื่องจากตนเองอยู่ต่างจังหวัดจึงได้รีบกลับมาเมื่อคืน และเช้าก็มาพบว่าปลาตายหมดแล้ว แต่ช่วงเย็นก็มีชาวบ้านแจ้งมาแล้วว่า ปลาธรรมชาติในแม่น้ำนั้นเริ่มลอยตายไล่ตามแม่น้ำมาเรื่อย ๆ

ซึ่งสาเหตุนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำเสียที่ปล่อยออกมาจากโรงงาน เพราะน้ำนั้นสีเปลี่ยน มีสีดำ มีคราบน้ำมันลอยในน้ำ ซึ่งมีเพื่อนนำเครื่องมือมาวัดค่าอ๊อกซิเจนในน้ำก็พบว่า ค่าอ๊อกซิเจนในน้ำนั้นต่ำกว่ามาตราฐานมาก สิ่งมีชีวิตในน้ำนั้นก็จะอยู่ยาก ซึ่งส่วนใหญ่โรงงานนั้นจะแอบปล่อยน้ำเสียในช่วงหน้าน้ำหลากเพื่อให้ปนมากับน้ำที่ไหลมา เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของสารเคมีนั้นเจือจางลง แต่การปล่อยน้ำเสียมาในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง ทำเกิดผลกระทบกับสัตว์น้ำ ซึ่งมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้น่าจะมากกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่มีแพปลาของตนเองเจ้าเดียว แต่มีแพปลาที่อยู่เหนือตนขึ้นไปและลงไปข้างล่างอีกหลายแพที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ซึ่งตอนนี้ที่กลับมานั้นยังไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานทราบ และผลกระทบดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนเลี้ยงปลา แต่ผู้ที่ใช้น้ำประปาก็จะได้รับผลกระทบด้วย เพราะดูดน้ำจากแม่น้ำขึ้นไปผลิตประปาแล้วส่งต่อไปให้ชาวบ้านได้บริโภค ก็จะได้รับสารเคมีที่ปนเปื้อนในน้ำไปด้วย จึงอยากฝากให้เขื่อนท่าม่วงได้ช่วยเร่งระบายน้ำออกมาเพื่อมาไล่น้ำเสียให้เจือจาง แต่ทั้งนี้หน่วยงานก็จะต้องไปสืบหาต้นตอด้วย และตอนนี้ก็จะต้องรีบนำปลาที่ตายขึ้นมาจากแพ เพื่อไม่ให้น้ำเน่าไปกว่านี้ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น และจะต้องนำไปทำการฝังกลบเพราะเอาไปบริโภคไม่ได้
ด้านนายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม บอกว่า เบื้องต้นได้แจ้งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำ รวมทั้งไล่ตรวจสอบคุณภาพที่เหนือขึ้นไปและลงไปด้านล่าง เพื่อดูว่ามีสารอะไรปนเปื้อนมาบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป ส่วนจำนวนปลาที่ตายในแพปลาแห่งนี้ ซึ่งมีมากกว่า 40,000 ตัว ก็จะต้องดูสถานที่เหมาะสมในการฝังกลบปลาจำนวนมากด้วย

ที่มา : https://www.77kaoded.com/news/saichol/2395336