‘ไทยศรีวิไลย์’ บุกอยุธยา

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค,นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรค ,นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค , นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำหัวหน้าพรรค ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. กทม เขต บางแค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ กุ้งพลอย หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเทอร์ รองโฆษกประจำหัวหน้าพรรค นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิต ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ , นายอนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงานพรรค และ น.ส.ชนิมณฑ์ สืบอ้าย เจ้าหน้าที่พรรค ร่วมลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา

.

โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดใหญ่ชัยมงคล เพื่อสักการะองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นกำลังใจในการสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป จากนั้น ได้ร่วมพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และถวายผ้าป่าสามัคคีอุทิศเป็นพระราชกุศล รวมทั้ง ได้ร่วมสนทนาธรรมกับ พระครูสิริชัยมงคล รองเจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล โดยทางพระครูสิริชัยมงคล ได้ให้คติธรรมในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนด้วย

.

จากนั้น ได้เดินทางไปชมตลาดน้ำอโยธยา เพื่อเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้าในตลาด และสนทนากับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมและซื้อของภายในตลาด ต่อมา ได้ไปสักการะศาลหลักเมืองอยุธยา โดยศาลหลักเมืองอยุธยาหลังปัจจุบัน สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2525 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและปักธงพรรคไทยศรีวิไลย์ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากนั้น ได้เดินทางไปยัง อ.ลาดบัวหลวง เพื่อเข้าร่วมประชุมคัดเลือกตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยผลการประชุมปรากฏว่า นายสมนึก จิตรีปลื้ม ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ของพรรค คือ นายพชรพล จิตรีปลื้ม เขต 5 (อ.ลาดบัวหลวง อ.บางซ้าย อ.ผักไห่ อ.เสนา) จากนั้น ได้สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองลาดบัวหลวง และได้ลงพื้นที่ตลาดนัดแสงอารี อ.ลาดบัวหลวง โดยมีประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ต่างมาให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปกับนายมงคลกิตติ์ เป็นจำนวนมาก

.

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอดีตราชธานีของไทยถึง 417 ปี มีสภาพปัญหาที่เริ่มจะเหมือนกับกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะมีโรงงานอุตสาหกรรมมากมาย และมีมลพิษจำนวนมาก โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่เกินมาตรฐานต่อสุขภาพ และบางวันก็มีผลกระทบต่อผู้ป่วยหรือร่างกายอ่อนแอ ทำให้เกิดความวิตกกังวลถึงสุขภาพ ดังนั้น นอกจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้งทางพรรคฯ จะได้มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อที่จะมาช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังมีนโยบายที่สามารถเป็นหลักประกันหากเกิดกรณีที่ไม่คาดฝันคือ โครงการรับประกันชีวิตทุกชีวิตที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเสียชีวิตทุกเหตุการณ์ ทุกกรณี ทุกโรคจะได้รับเงิน 500,000 บาท เพราะทางพรรคฯ ทราบว่า เวลาที่เสียชีวิตมักจะมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก บางคนไม่มีเงินทำศพ ก็ต้องอาศัยไว้วานบรรดานักการเมืองให้มาติดพวงหรีดหรือช่วยออกเงิน ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ต้องการให้เกิดภาพที่ประชาชนต้องติดบุญคุณแบบนี้อีก ซึ่งคาดว่า จะใช้เงินประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท เงินนี้มาจากรายได้จากการพนันถูกกฎหมาย ส่วนพี่น้องแรงงาน ที่ส่วนใหญ่มาจากจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศนั้น ทางพรรคก็ได้มีนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการทางการเงิน โดยการตั้ง ธนาคารแรงงาน ให้กับผู้ใช้แรงงาน กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกิน 2% ต่อปี เพื่อให้แรงงานได้มีเงินในการพัฒนาทักษะ ปลดเปลื้องหนี้สินที่มีจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ และอาจจะเป็นเงินทุนเพื่อสร้างสตาร์ทอัพรายใหม่ เพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองและประเทศชาติ และมีนโยบายอื่นๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับชาวอยุธยา เช่น การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 5,000 บาท การเพิ่มค่าตอบแทนให้ อสม. เป็นเดือนละ 3,000 บาท อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เดือนละ 3,000 บาท เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก เดือนละ 3,000 บาท รวมทั้ง นโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ครัวเรือนละ 150,000 บาท ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอีกด้วย

.

ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

.

#ภาคกลางไทม์