Friday, 3 May 2024
NEWSFEED

กรุงเทพฯ ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ ยังไม่เกินมาตรฐาน คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี

วันนี้ (3 มกราคม 2566) เช็กค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล "ไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่" คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี แนะประชาชนตรวจสอบข้อมูลอากาศก่อนออกจากบ้าน

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2566 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 24-41 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ดัชนีคุณภาพอากาศ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดี

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่ามีอากาศเย็น โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา) คือ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 - 8 ม.ค. 66 อากาศมีเสถียรภาพ ประกอบกับเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราการระบายอ่อน/ ไม่ดีในช่วงเวลาดังกล่าว (ยกเว้นวันที่ 5 และ 6 ม.ค.66 ที่อัตราการระบายดี/ดีมาก) ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 ค่อนข้างทรงตัว วันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส

เปิดศักราช 2566 ยอดเมาขับพุ่ง! สะสม 4 วัน 4,300 คดี นนทบุรีแชมป์

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2566 อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ เฉพาะวันที่ 1 มกราคม 2566 มี 2,666 คดี รวมยอด 4 วัน 4,508 คดี เพื่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีการดำเนินคดีแค่ 52 คดี โดยมีจังหวัดนนทบุรี ครองแชมป์ถูกจับเมาขับมากสุด

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ต้อนรับวันปีใหม่ 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 2,666 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,613 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.01 คดีขับเสพ 53 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.99 ซึ่งสถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 4,508 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 4,300 คดี คดีขับรถประมาท 11 คดี และคดีขับเสพ 197 คดี

จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ร้อยเอ็ด 255 คดี นนทบุรี 252 และ เลย 245 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่สี่ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 52 คดี และ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 2,613 คดี เพิ่มขึ้น 2,561 คดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ (29 ธ.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า พร้อมด้วยนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม โดยมี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.), นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ทอท.), นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม, ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าและออกประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งภายหลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน ให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากการดำเนินการพบว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวก บริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้าและขาออก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที (นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา) สำหรับช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที รวมทั้งจัดระเบียบคิวผู้โดยสารที่รอรับบริการ

ในส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้ โดยสารได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณสัมภาระ พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที

ทั้งนี้ ระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระในแต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าสัมภาระ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (Flight Delay)

รวมทั้งการขาดบุคลากรและอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้นเร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก โดยต้องมีบุคลากรให้เพียงพอและสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรับกระเป๋าสัมภาระ ทั้งในเที่ยวบินปกติและกรณีที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น

สำหรับปัญหาการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนานที่ผ่านมา ปัจจุบัน ทาภ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น รวมทั้งขยายขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ และกำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน

ชมความอลังการ ดอกไม้เมืองหนาวพื้นที่สูงแก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี

(29 ธ.ค.65) บรรยากาศท่องเที่ยววันหยุดยาวต่อเนื่อง พื้นที่สูงแก่นมะกรูดพื้นที่โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ หรือโครงการปิดทองหลังพระ ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีที่ถูกขนานนามว่าหนาวสุดกลางสยาม เริ่มคึกคักนักท่องเที่ยวขึ้นชมสวนพฤกศาสตร์ดอกไม้เมืองเหนือสวยงาม

บรรยากาศท่องเที่ยวที่จังหวัดอุทัยธานีเริ่มคึกคัก โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวนี้ หนีไม่พ้นที่บนพื้นที่สูงของตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ เป็นหมู่บ้านที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางกลาง 700 เมตร ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่โครงการหลวง “โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ หรือโครงการปิดทองหลังพระ” โครงการไม้เมืองหนาวที่แก่นมะกรูดเกิดขึ้นจากโครงการหลวงร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ที่ตั้งใจจะสร้างอาชีพให้กับชาวเขาเพื่อที่จะไม่ต้องทำลายป่า และจัดทำสวนสวยงามเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ และได้ซื้อผลิตภัณฑ์จากชาวเขาโดยตรง

โดยได้ประโยชน์ทั้งชาวเขาที่ได้ขายผลิตผลทางการเกษตรโดยไม่ต้องเดินทาง นักท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์จากการซื้อสินค้าได้ในราคาถูก โดยบรรยากาศการเดินทางของนักท่องเที่ยวมีทั้งนักนักเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี และนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร ที่ใช้การเดินทางเพียง 240 กม.ตั้งแต่เช้าวันนี้นักท่องเที่ยวได้

วัดชายทุ่ง จังหวัดชัยนาท ใช้ขวดแก้วสีเขียวกว่าหมื่นขวดทำพื้นใต้ถุนหอสวดมนต์ แทนหินสีมรกต

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 ที่วัดชายทุ่ง หมู่ที่ 12 ตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท พระสงฆ์ และชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดขวดที่มีสีเขียวจำนวนมาก และทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำไปโรยบนพื้นก่อนขัดให้ขึ้นเงาสวยงาม แทนหินสีมรกต ซึ่งขวดสีเขียวมีราคาถูกกว่า และส่วนหนึ่งชาวบ้านได้นำมาบริจาคให้กับวัด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำพื้นให้เป็นสีเขียวมรกตทั้งหมด แทนหินสีที่มีราคาแพงกว่า

พระปลัดปกรณ์ โชติปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดชายทุ่ง เปิดเผยว่า เนื่องจากเดิมกุฏิพระถูกไฟไหม้ จึงทำให้พระไม่มีกุฏิอาศัย หลวงพ่อพร้า (วัดโคกดอกไม้) จึงเมตตาสร้างหอสวดมนต์ไว้ให้ แต่ไม่ทันก่อสร้างแล้วเสร็จท่านได้มรณภาพลงเสียก่อน ต่อมาจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการวัด และชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างต่อมาเรื่อย ๆ 10 กว่าปีแล้ว

ตร.คาด ปีใหม่มีรถเดินทาง 7.3 ล้านคัน ย้ำลดอุบัติเหตุ คุมเข้มงานเคาท์ดาวน์ หวั่นเหยียบกันตาย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 5 หมื่นนาย ออกดูแล

วันนี้ (28 ธ.ค.2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการการจราจรและป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 มีการคาดการณ์ว่าช่วง 7 วันอันตราย วันที่ 29 ธ.ค.2565 ถึง 4 ม.ค.2566 จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และท่องเที่ยวต่างจังหวัดจำนวนมาก

โดยเฉพาะวันที่ 29-30 ธ.ค.2565 ขากลับช่วง 3-4 ม.ค.2566 ได้เน้นย้ำให้ตำรวจดูแลและอำนวยความสะดวกการจราจรให้ประชาชนเกิดความคล่องตัว และลดอุบัติเหตุทางถนนตามนโนบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายจะลดอุบัติเหตุให้ได้ในช่วงเทศกาล โดยที่ผ่านมาสามารถลดจำนวนอุบัติเหตุลงได้ โดยไม่ใช่การบังคับใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อว่าประชาชนให้ความร่วมมือในการดูแลและเคารพกฎจราจรมีการเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย เมาไม่ขับ เป็นต้น

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า การเตรียมการตำรวจทางหลวงและตำรวจท้องที่ การออกข้อบังคับรถบรรทุกในช่วง 7 วันอันตราย ขาไปและขากลับห้ามวิ่งยกเว้นขออนุญาตและการใช้ช่องทางพิเศษ โดยเฉพาะสายอีสานมอเตอร์เวย์ยังเปิดปกติ ช่วงสายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) ขาออกเปิด 29-31 ธ.ค. 65 ส่วนขาเข้าเปิด 1-4 ม.ค. 66 เพราะยังไม่เสร็จสมบูรณ์และใช้ได้ส่วนหนึ่งตามเดิมเหมือนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการกำชับครั้งสุดท้ายก่อนเพิ่มความเข้มข้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ชาวราชบุรี ร้องมีเอกสารสิทธิกลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ ขอให้หน่วยงานรัฐเร่งตรวจสอบ

วันนี้ (28 ธ.ค.65) ชาวบ้านร้องมีเอกสารสิทธิกลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ หลายหน่วยงานเร่งเข้าตรวจสอบ พบเป็นพื้นที่ทับซ้อนมีเอกสารสิทธิกลางพื้นที่ป่าตามที่มีการร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เรียกร้องขอให้ทำการตรวจสอบ และพิสูจน์ทราบเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน ในพื้นที่หมู่ 11 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ว่าที่ดินดังกล่าว เป็นการออกเอกสารสิทธิการครอบครองโดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากมีการตรวจสอบแล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ให้ตรวจสอบว่าสามารถขุดสระน้ำในที่ดินเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสีย โดยมีการอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองอย่างถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ที่ 11 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี นายกนิษฐ ศิลา ปลัดอำเภอปากท่อ นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ราชบุรี น.ส.ถปนัท ชาติไทย ผู้ร้องเรียน ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบบริเวณสระน้ำตามที่ผู้ที่ร้องเรียนแจ้งเข้ามา

เจ้าของฟาร์มได้ทำการชี้แจงว่า สระดังกล่าวเป็นสระที่ขุดไว้เพื่อรองรับน้ำดี แต่ไม่มีน้ำลงมา เนื่องจากไม่มีทางน้ำไหลผ่าน ทางบริษัทจึงปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสียซึ่งเป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดมาระดับ 1 จะไม่มีสารพิษต่อคนและสัตว์ และไม่ส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดิน จากการตรวจสอบทางกรมป่าไม้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ปฏิรูปที่ดินดำเนินการ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการให้ใคร พื้นที่ดังกล่าวจึงยังเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

นายสุชาติ กล่าวว่า ทางอำเภอปากท่อให้มาตรวจสอบพื้นที่ที่มีการขุดบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่ ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จากการตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวทั้ง 2 จุด เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียเดิม และบ่อบำบัดแห่งใหม่ มีร่องรอยการขุด ในภาพรวมอยู่ในเขตป่าสงวนบ้านพุยาง เขตป่าสงวน 2505 แต่จากการตรวจสอบมีผู้แทนของบริษัทแจ้งว่า เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ดิน ขั้นตอนต่อไปคงต้องประสานทางกรมที่ดิน และเจ้าของที่ดินมานำชี้เป็นขั้นตอนต่อไป

ทัวร์สายมรณะ!!! หนุ่มแดนกีวีตกรถไฟดับ ฝ่าฝืนข้อห้าม ยื่นตัวถ่ายรูป

(กาญจนบุรี) หนุ่มชาวนิวซีแลนด์ตกรถไฟสายมรณะร่างกระแทกพื้นดับ ขณะท่องเที่ยวชมเมืองกาญจน์ รถไฟวิ่งถึงทางโค้งถ้ำกระแซ พนักงานการรถไฟปิดประตูรถเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้ตายเปิดประตูจับราวเหล็กยื่นตัวออกไปด้านนอกรถเพื่อถ่ายรูป จังหวะตัวรถบิดจึงพลัดตกร่างกระแทกพื้น ตำรวจอยู่ระหว่างประสานสถานทูตนิวซีแลนด์ เพื่อติดต่อญาติมารับศพ

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. เวลา 12.00 น. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ เกิดโชค สว. (สอบสวน) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพลัดตกรถไฟโดยสารร่วงลงใต้สะพานเสียชีวิตที่หน้าถ้ำกระแซ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค ไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายเนรมิตร เหลืองอร่างฟ้า นายอำเภอไทรโยค นายกิตติคุณ อินบุญ ปลัดอำเภอไทรโยค แพทย์โรงพยาบาลไทรโยค และอาสามูลนิธิพิทักษ์กาญจน์

ที่เกิดเหตุเป็นทางรถไฟสายมรณะหน้าถ้ำกระแซ มีสะพานไม้เลียบหน้าผาสูงประมาณ 15 เมตร พื้นด้านล่างพบศพชายชาวต่างชาติ อาสามูลนิธิฯโรยตัวลงไปพร้อมเปลเพื่อเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อ นายแพตทริค เวิร์ด อายุ 45 ปี ชาวนิวซีแลนด์ สภาพคอหัก มีรอยถลอกฟกช้ำที่แขนทั้งสองข้าง ผู้ตายมีรูปร่างใหญ่ อาสาฯต้องเคลื่อนย้ายร่างกันอย่างทุลักทุเล นำศพขึ้นมาที่รถรางส่งชันสูตรที่ รพ.ไทรโยค

อบจ.ราชบุรี จัดพิธีบวงสรวง พระคู่บ้านคู่เมืองขอพรปีใหม่ พร้อมร่วมสวดมนต์ถวายพระพร

วันนี้ (27 ธ.ค. 65) ที่บริเวณยอดเขาแก่นจันทน์ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นที่ประดิษฐสถานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ (พระสี่มุมเมือง) ซึ่งเป็นพระคู่บ้าน คู่เมือง ของจังหวัดราชบุรี ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นำโดยนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้จัดให้มีพิธีบวงสรวง นมัสการพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ (พระสี่มุมเมือง) มีการรำบวงสรวงถวาย เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับพุทธศักราช 2565

และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ รวมทั้งถวายภัตราหารเพล เพื่อถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี สิริพัชรมหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงในเร็ววัน และพิธีปล่อยนกจำนวน 99 ตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล

กทม. ฝุ่นพิษคลุ้ง!! เขตหนองแขม-ทวีวัฒนา PM 2.5 เกินมาตรฐาน

(27 ธ.ค.65) เขตหนองแขม และทวีวัฒนา ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินมาตรฐาน กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นในตอนเช้า อัตราการระบายฝุ่นละอองไม่ดี

สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก วันที่ 27 ธ.ค. 65 เวลา 07.00 น. พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยค่าฝุ่นละออง PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน จำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ เขตหนองแขม และ เขตทวีวัฒนา โดยตรวจวัดได้ระหว่าง 21-53 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 32.2 มคก./ลบ.ม. PM2.5 ค่ามาตรฐาน เฉลี่ย 24 ชม. ไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.

ทั้งนี้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ในช่วงวันที่ 24 – 28 ธ.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอก จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า และกรุงเทพมหานครฝุ่นมีแนวโน้มจะขึ้น 3-4 วัน ในช่วงเช้า เพราะลมอ่อนลงมาก จากความกดอากาศที่อ่อนกำลัง แต่ความกดอากาศสูงรอบใหม่ จะเข้ามาในช่วงปีใหม่ จะทำให้ฝุ่นลดลงหลังจากนั้น จากลมที่แรงขึ้นทำให้อัตราการระบายอากาศสูงขึ้น


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top