Sunday, 19 May 2024
ภาคกลางไทม์

บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมาย หรือยัง ?

วันที่ 8 มีนาคม 2566 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี - นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมงานเสวนาวิชาการ หัวข้อ กัญชาเสรีแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมาย หรือยัง

 

โดยผู้จัดงานได้กล่าวว่า ปัจจุบันได้เกิดข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขว้างในประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าหลังจากที่มีการประกาศห้าม การนําเข้าและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าออกมาจากทางรัฐบาล โดยมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายหรือไม่ ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

 

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์การสูบชนิดหนึ่งที่มีสารเคมีต่าง ๆ ผสมอยู่ซึ่งให้โทษต่อผู้ที่สูบไม่น้อยกว่าบุหรี่มวน แต่กลับไม่ได้ยอมรับการผลิตตามมาตรฐาน เนื่องจากผิดกฎหมาย แต่ก็ยังพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในที่สาธารณะกันทั่วไปทั้งในและนอก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

โดยภายในงานเสวนา นายชัยวุฒิ ได้เปิดเผยว่า อยากให้มีการจัดงานเวทีเสวนาแบบนี้ เพื่อส่งเสียงของประชาชนให้ถึงผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า ตนเชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีสารที่ก่อให้เกิดอันตราย เช่น นิโคตินต่อร่างกาย แต่หากคิดในมุมอันตรายต่อร่างกายอย่างเดียวหลายเรื่องก็ไปไหนไม่ได้ เพราะภายในกาแฟก็มีคาเฟอิน

 

ซึ่งหากดื่มมาก ๆ ก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเหมือนกัน แต่เราควรมองในมุมที่ว่าหากต้องการเลิกสูบบุหรี่จริง แล้วต้องการหาบุหรี่ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ตนจึงอยากให้สิ่งนี้ถูกกฎหมาย

 

โดยนายชัยวุฒิได้เน้นย้ำว่า “เราต้องยอมรับว่าการปิดกั้นบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปมันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง” ไม่สามารถที่จะตรวจสอบการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าได้

 

เกิดการรับส่วย เป็นระบบขบวนการ นอกจากนี้นายชัยวุฒิได้แจ้งต่อว่ายังมีกฏหมายอีกหลายอย่างที่ล้าหลังประเทศไทยต้องปรับ เช่น การซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดลิเวอรี่ หรือ การพนันออนไลน์ที่คนไทยมีการเล่นพนันจริง ๆ

 

แต่เราไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะผู้ให้บริการเปิดระบบข้างนอกประเทศไทย แล้วทำไมเราไม่ลองทำของเราเอง ดังนั้นจึงอยากฝากให้ทุกคนช่วยกันส่งเสียงเรื่องที่ควรแก้ไขให้มีการปรับปรุงต่อไป

 

สำหรับโครงการเสวนาในครั้งนี้ทางองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เล็งเห็นถึงความสําคัญในการจัดทําโครงการนี้ขึ้น

 

เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ตระหนักและเข้าใจถึงโทษ และผลกระทบของการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือการสูดดมควันจากบุหรี่ไฟฟ้า และประเด็นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าควรถูกกฎหมายหรือไม่ จะเป็นไปในทิศทางใด ในความคิดของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

‘Mekha V’ รับรางวัล ‘Microsoft Partner of the Year 2022’ ตอกย้ำการมุ่งสู่ธุรกิจแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท.

 


เมื่อไม่นานมานี้ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) รับรางวัล Microsoft Partner of the Year 2022 จากนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ในโอกาสที่บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) ซึ่งเป็น Flagship ด้าน AI, Robotics & Digitalization ของกลุ่ม ปตท. ได้รับรางวัลสาขา ‘Intelligent Cloud กลุ่มธุรกิจภาครัฐ ภาคการศึกษา และสาธารณสุข’ สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาและเติมเต็มระบบนิเวศการใช้คลาวด์ (Cloud Ecosystem) ของกลุ่ม ปตท.

 

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านดิจิทัล และสร้างโอกาสการเติบโตไปยังธุรกิจที่ไกลกว่าการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายบนดิจิทัลแพลตฟอร์มให้ตอบโจทย์ความท้าทายใหม่ ๆ ตามทิศทางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่ของ ปตท.

 

รางวัล Partner of the Year 2022 เป็นรางวัลที่มอบให้พันธมิตรที่นำเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ไปสรรสร้างนวัตกรรม และพัฒนา Solution สำหรับการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีใหม่ให้กับองค์กร สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต

ไม่ชิงเก้าอี้ที่ อ่างทอง ชาติไทยพัฒนา ประกาศ ไม่ส่งผู้สมัคร เพราะเป็น มารยาท และไม่อยากให้ใครเสียความรู้สึก

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคว่าจะมีนายสันติ กีระนันท์ และนายกนก วงศ์ตระหง่าน รวมทั้งเตรียมเปิดตัวนายชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นทีมเศรษฐกิจที่มีความพร้อมทุกมิติ ขุนพลแต่ละด้านครบ แม่ทัพแต่ละด้านก็พร้อม ส่วนด้านการเมืองตนดูแล ด้านสังคม เศรษฐกิจฐานรากนายกนกเป็นคนดูแล ขณะที่ตลาดเงิน ตลาดทุน นายสันติจะเป็นคนดู ครบเครื่องครบถ้วนหมดแล้ว

 

เมื่อถามว่ากำหนดการหาเสียงของพรรค ชทพ. อย่างไร นายนิกร กล่าวว่า เราจะออกไปนำเสนอนโยบายและไปปราศรัยที่ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นที่ซีลหมดแล้วทุกสนามเคาะแล้ว ใครจะเข้าไปก็ได้ลองดู และเราจะกลับไปอีกรอบหนึ่งคือเราจะแพ้ไม่ได้ ป้องกันด้วยชีวิต พื้นที่อื่นในภาคกลางจะไปที่ จ.เพชรบุรี และภาคเหนือที่ จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอนก็มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ค่อนข้างที่มีน้ำหนัก ภาคอีสานมีพื้นที่หลักคือ จ.ร้อยเอ็ด และพื้นที่อื่นอีก 3-4 จังหวัด ส่วนพื้นที่ภาคใต้อาจส่งบางเขต นอกจากนี้ เราจะไม่ส่ง จ.อ่างทอง และบุรีรัมย์ เพราะเป็นเรื่องของมารยาท และไม่อยากให้ใครเสียความรู้สึก

 

ส่วนของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จะเน้นเรื่องนโยบายเป็นหลัก เราจะไม่สู้นโยบายลดแลกแจกแถม เพราะเราไม่เห็นด้วย ซึ่งจะส่งผลยาวนานมากในอนาคต และเท่าที่ดูยังไม่เห็นใครทำตามกฎของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องการแจงที่มาของเงิน การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ และการวิเคราะห์ผลตอบแทน ทางพรรค ชทพ. ทำเสร็จเรียบร้อยตามที่ประกาศไป 10 ข้อ และต้องฟังความเห็นจากท้องถิ่น ไม่ใช่คิดกันในห้องกระจกแล้วไปแถลง

 

นายนิกร กล่าวว่า หากยุบสภาฯ แล้วทางพรรคจะไปคุยกับสาขาว่านโยบายของพรรคมีการตอบสนองอย่างไร โดยจะจัดเป็นกิจกรรมตามที่กฎหมายกำหนด ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ เราจะเลือกคนเหล่านั้นไปทำงานต่อ ซึ่งตั้งเป้าไว้อาจจะได้ 10-12 คน คาดว่าจะได้ ส.ส.ประมาณ 25 คน

 

โดยพรรค ชทพ. จะเน้นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ประชาชนจึงต้องช่วยเลือกเราเข้ามาตามสมควร เพื่อจะได้ไปร่วมรัฐบาล

 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรค ชทพ. และว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เรา อาจจะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่จะได้เข้าไปทำนโยบายให้เกิดได้จริง

 

ถือเป็นกระบวนการมุ่งไปสู่นายกฯ ไม่ใช่ไปเป็นนายกฯ จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันเลือก ถ้าชอบสิ่งแวดล้อม ก็เลือกพรรค ชทพ.

 

เมื่อถามว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่ารัฐบาลมีอำนาจใช้งบประมาณและอำนาจเพื่อเนียนหาเสียงเลือกตั้งได้ นายนิกร กล่าวว่า ในทางพฤตินัยทำได้ แต่ถ้ามีปัญหามากก็จะมีผลสะท้อนกลับได้เหมือนกัน คือสามารถทำได้จริง แต่เมื่อยุบสภาฯ แล้วทำไม่ได้ โครงการหลักใหญ่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เท่าที่จำเป็น เดี๋ยวจะมีปัญหาถูกร้องได้

 

เท่าที่รู้ เหลือประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งเดียว สามารถทำได้แต่มีขอบเขตทางด้านจิตใจอยู่ ส่วนขอบเขตทางด้านการเมืองหากเลยไปข้างหน้ามากๆ ก็หกล้มได้เหมือนกัน

 

 

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ

นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณียื่นฟ้อง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท ต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 ว่า

 

คดีนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 10 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ซึ่งทีมทนายความ ได้มีการซักซ้อมพยานและแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมพบว่า รูปคดีฝ่ายโจทก์มีข้อมูลเพียงพอที่จะสามารถเอาผิดจำเลยได้ โดยสามารถตัดพยานบางปากออกไปได้เพื่อความรวดเร็วในพิจารณาคดีของศาล

 

นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในการไลฟ์สดของนายอัจฉริยะ บางครั้งมีการนำภาพของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร มาประกอบการอ้างอิงต่างๆนานาด้วย จึงเป็นประเด็นที่ทีมกฎหมายต้องนำสืบข้อเท็จจริงต่าง ๆ หักล้าง

 

โดยเห็นสมควรต้องนำพยานที่ถูกพาดพิง ขึ้นเบิกความต่อศาลด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการบรรยายพฤติการณ์การกระทำผิดต่างๆของนายอัจฉริยะ ตามคำฟ้อง และคิดว่า เป็นประโยชน์ต่อตัวของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ที่ถูกกล่าวพาดพิงด้วย ทีมกฎหมายจึงได้บรรจุชื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ไว้ในบัญชีพยาน

 

โดยที่ยังไม่ได้แจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ทราบ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทีมกฎหมายพยายามประสานงานไป แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อ พบปะ พูดคุย หรือแจ้งให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบได้ การดำเนินการต่อจากนี้ก็จะได้มีการประสานและชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้กับพยานแต่ละท่านทราบ แต่หากพยานท่านหนึ่งท่านใดไม่ประสงค์จะขึ้นเบิกความ ก็สามารถถอนรายชื่อออกไปจากบัญชีพยานได้

 

ทำประโยชน์ให้การท่องเที่ยว "กัมพล" ประธานบริษัทนงนุช รับเครื่องราช ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ ห้องประชุมจรุวัสตร์ ชั้น 10การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ นายกัมพล ตันสัจจา ประธานบริษัทนงนุช วิลเลจ จำกัด เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

 

ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ 2 ข เนื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้ ส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ประจำปี 2564 ให้แก่บุคคลภายนอกผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ที่มา : สยามโฟกัสไทม์

โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) (ซ้าย) และ ดร.หาญณรงค์ ฉ่ำทรัพย์ รองผู้อำนวยการ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สทน.) (ขวา) ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชัน ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

โดยมีผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน การผนึกกำลังของ ปตท. และ สทน. ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อร่วมมือกันในด้านการวิจัยและพัฒนาพลาสมา เทคโนโลยีฟิวชัน และห้องปฏิบัติการขั้นสูง

 

โดยมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและพัฒนาด้านพลาสมาและเทคโนโลยีฟิวชันในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2570 รวมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในด้านงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ระหว่าง ปตท. และ สทน.

 

ทั้งนี้ ความร่วมมือในครั้งนี้ยังสอดรับกับเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. ที่มุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายการเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

 

เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนานวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ที่พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคมต่อไป

 

 

มิว สเปซ ผนึก OneWeb ลุยบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ครอบคลุมใน 6 ประเทศอินโดจีน

วันที่ 17 มีนาคม 2566 มาสด้าเตรียมจัดแสดงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนายนตรกรรม ภายใต้แนวคิด Multi-solution Technology ในงานมอเตอร์โชว์ พร้อมนำรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่น ทั้งรถยนต์นั่ง Mazda2, Mazda3, รถครอสโอเวอร์เอสยูวีตระกูล CX-Series, รถปิกอัพ บีที-50 และรถยนต์รุ่นพิเศษ Mazda Carbon Edition นำมาให้เลือกสรรพร้อมเป็นเจ้าของด้วยข้อเสนอสุดพิเศษครั้งเดียวในรอบปีที่ไม่ควรพลาด ดอกเบี้ยต่ำสุด 0%, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance, ฟรีโปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี ฟรีของพรีเมี่ยมสุดพิเศษ มูลค่า 2,990 บาท เมื่อจองภายในงาน มอเตอร์ โชว์ ระหว่างวันที่ 22 มี.ค. 66 – 2 เม.ย. 66 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือรับข้อเสนอเดียวกันได้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

 

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับไฮไลท์ของบูธมาสด้าในงานมอเตอร์โชว์ที่ถึงนี้ คือการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาจัดแสดงให้ลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก โดยรถรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาไปสู่เทคโนโลยีแห่งอนาคตอันใกล้นี้ ภายใต้ Multi-solution Technology 

 

ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้มาสด้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อมอบทางเลือกให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ตามกลยุทธ์ Mazda Building Block ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวของรถรุ่นต่างๆ ในต่างประเทศในช่วงก่อนหน้านี้ อาทิ Mazda CX-60 PHEV ในยุโรปและออสเตรเลีย, Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV ในยุโรป และ Mazda CX-90 PHEV ในอเมริกาและออสเตรเลีย เป็นต้น ซึ่งเป็นแนวทางการเดินหน้าสู่เทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตนี้ โดยมาสด้าคาดว่าภายในปี 2030 จะมีสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นพลังงานไฟฟ้าทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 25% ถึง 40%  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ในการส่งมอบเทคโนโลยียานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนตามแนวทาง Sustainable Zoom-Zoom 2030

 

ด้วยเหตุนี้ สำหรับในประเทศไทย มาสด้าจึงได้นำเทคโนโนโลยีมาจัดแสดงในงานมอเตอร์ โชว์ 2023 เพื่อแสดงออกถึงแนวทางในการก้าวสู่อนาคต มาสด้าเรียนเชิญชวนลูกค้าและแฟนๆ ทุกท่าน เข้ามายลโฉมกันที่บูธมาสด้าได้ตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. 66 – 2 เม.ย. 66 หรือเพียง 12 วัน เท่านั้น และนอกจากรถไฟฟ้าที่นำมาจัดแสดงแล้ว มาสด้ายังได้นำรถยนต์มาสด้ามาจัดแสดงครบทุกรุ่น ไม่เพียงเท่านี้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อรถมาสด้าภายในงานฯ รับข้อเสนอสุดคุ้มครั้งเดียวในรอบปี รวมถึงของพรีเมี่ยมสุดพิเศษกับเครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น FP-F30TA-A มูลค่า 2,990 บาท4 (จำนวนจำกัด) เมื่อจองรถในงานฯ 5,000 บาท และรับรถภายใน 30 เม.ย. 66 โดยข้อเสนอสุดพิเศษภายในงาน มีดังต่อไปนี้

 

➢ Mazda2 และรุ่นพิเศษ Carbon Edition: ดอกเบี้ย 0%1, ฟรีประกันภัยชั้น 1 Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 26,500 บาท2 ตัวเลือกที่ 2 ดาวน์เริ่มต้น 29,950 บาท1 หรือ ดอกเบี้ย 2.19%1 พร้อมรับ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 26,500 บาท2, ฟรีแพ็กเกจบำรุงรักษาตามระยะ Mazda Care 5 ปี (รวมค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลว) มูลค่าสูงสุด 38,515 บาท

 

➢ Mazda3 และรุ่นพิเศษ Carbon Edition: ดอกเบี้ย 2.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 27,100 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 50,007 บาท

 

➢ Mazda CX-3 และรุ่นพิเศษ Carbon Edition: ดอกเบี้ย 2.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 21,500 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 50,343 บาท3 ตัวเลือกที่ 2 ดอกเบี้ย 1.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 21,500 บาท

 

➢ Mazda CX-30 และรุ่นพิเศษ Carbon Edition: ดอกเบี้ย 2.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 25,300 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 50,007 บาท3 ตัวเลือกที่ 2 ดอกเบี้ย 1.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 25,300 บาท

 

➢ Mazda CX-5: ดอกเบี้ย 2.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 23,000 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 61,417 บาท

 

➢ Mazda CX-8: ดอกเบี้ย 2.19%1, ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 35,700 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 62,568 บาท

 

➢ Mazda BT-50: รับส่วนลดพิเศษ (จำนวนจำกัด) เพื่อพลิกฟื้นผู้ประกอบการไทยอีกครั้ง สำหรับ Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer พิเศษเพียง 729,000 บาท5 (จากราคา 891,000 บาท) หรือ ดาวน์เริ่มต้น 19,000 บาท1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง2 สำหรับ Mazda BT-50 DBL 1.9 S Hi-Racer ราคาปกติ 891,000  บาท

 

➢ Mazda MX-5: ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี มูลค่า 47,200 บาท2, ฟรี โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี Mazda Ultimate Service (MUS) มูลค่าสูงสุด 59,432 บาท

เพชรบุรี กระตุ้นท่องเที่ยว จัดงานวิ่งบิกินีบีชรัน 2023 ปชช. นทท. ร่วมงานคึกคัก

เมื่อวานนี้ (19 มี.ค. 66)  นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิด งานวิ่งบิกินีบีชรัน 2023  ครั้งที่ 14 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรีให้คึกคัก โดยมี  นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรม ไทยภาคตะวันตก  สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเพชรบุรี  JOG & JOY และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดงานอย่างพร้อมเพรียงกัน ณ บริเวณชายหาดชะอำ หน้าโรงแรมลองบีช จังหวัดเพชรบุรี  

 

งานวิ่งบิกินี่บีชรัน 2023"ได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่14  ที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว หาดชะอำจังหวัดเพชรบุรีให้คึกคัก  เปิดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ตามนโยบายของรัฐบาล   ส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่  ให้สอดคล้องกับเมืองท่องเที่ยวชายทะเล  และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ  ยกระดับการจัดการแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนนานาชาติ ให้กับหาดชะอำ โดยเป็นงานวิ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันใส่บิกินี่แข่งขัน เพราะใช้เส้นทางวิ่งเลียบหาดชะอำ  ซึ่งในช่วงสุดท้ายนักวิ่งทุกคนจะต้องวิ่งบนชายหาด ระยะทางกว่า2กิโลเมตร โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น4ประเภท ได้แก่ ฮาล์ฟมาราธอน 21.กม., มินิมาราธอน10.5กม. และบิกินี่ รัน10.5กม. โดยมีนักวิ่งสนใจเข้าร่วมกิจกรรมนับ 1,000 คน  ส่งผลให้ชายหาดชะอำคึกคักยิ่งขึ้น

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เผยภายในปีนี้ จะมีรถขนส่งไฟฟ้า เปิดให้บริการในไทย 71 คัน

วันนี้ (20 มี.ค. 66) ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำของโลก ขยายจำนวนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้ในการขนส่งในประเทศไทย โดยเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 16 คัน ในการจัดส่งแบบลาสไมล์ นอกเหนือจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 50 คันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน การขยายจำนวนการใช้งานรถ EV ในครั้งนี้ทำให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เป็นผู้ให้บริการลอจิสติกส์รายแรกในประเทศไทยที่เปลี่ยนไปใช้รถ EV ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้านี้เริ่มทำการขนส่งสินค้าในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2566 

 

โดยให้บริการในกรุงเทพ เขตพื้นที่ต่างๆ ได้แก่ สาทร, สีลม, ปทุมวัน, พระราม 3, ถนนสุขุมวิท, และถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยดีเอชแอลมีแผนที่จะเพิ่มรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าอีก 5 คันในเฟสถัดไป เพื่อใช้งานในเส้นทางภาคตะวันออก ซึ่งจะทำให้ดีเอชแอลมีรถ EV ที่ให้บริการทั้งหมดในประเทศไทยรวมจำนวน 71 คัน ภายในปี 2566 ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถ EV เป็นจำนวน 60% ของยานพาหนะทั้งหมดในประเทศไทย ภายในปี 2573

 

เฮอร์เบิร์ต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “ความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจที่เราให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง และดีเอชแอลมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ระดับโลก เราจำเป็นต้องผลักดันให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมร่วมมือกันเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในการดำเนินงานด้านลอจิสติกส์ และเรากำลังเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิให้เหลือศูนย์ ภายในปี 2593 

 

โดยให้ความสำคัญกับการเป็นกรีนลอจิสติกส์ ด้วยการเปลี่ยนไปใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งสิ้น 436 ตันต่อปี โดยรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าชุดนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการนำเราไปสู่ลอจิสติกส์ที่ยั่งยืน และการสร้างอนาคตที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทุกคน”

ต้องได้ 100 เสียง อนุทิน ตั้งเป้าภูมิใจไทย เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล สร้างความปรองดอง ประชาชนอยู่ดีกินดี เน้นพัฒนาฐานราก

วันที่ 21 มี.ค.2566 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังจากยุบสภา ว่า พรรคพร้อมเลือกตั้ง เราเตรียมตัวมานานแล้ว จากนี้จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน

ที่ผ่านมามีเสียงวิจารณ์ว่าเราดำเนินการเพื่อไปเป็นพรรคตัวแปร แล้วร่วมรัฐบาล ตนขอบอกว่า ถ้าคิดแบบนั้น เรามีแค่ 30-40 เสียง ก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย แต่ตนในฐานะหัวหน้าพรรค มองว่านอกจากโอกาสทำงาน เราต้องพาประเทศไทยสู่ความรุ่งเรืองอย่างมั่นคง ปรองดอง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นความโดดเด่นของพรรค เราต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมมือกัน เดินหน้าพัฒนาประเทศ

“เราต้องสร้างให้ประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่นๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ประชาชนต้องหาทางให้อยู่ดี กิน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท มีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงจำนวน ส.ส.ที่คาดว่าพรรคจะได้รับ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะถึง 100 เสียง ปัจจุบัน มีประมาณ 75 ที่นั่ง เป้าของเราไป 100 แล้วตอนนี้ เมื่อถามย้ำถึงตัวเลข 70 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า อันนั้นเป็นข้อมูลของโพลทั่วไป แต่เป้าของเราต้องแตะหลัก 100 ที่นั่ง

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมา เราทำงานด้วยกันได้ ทุกพรรคล้วนมีผลงาน ตั้งใจทำงาน เป็นความร่วมมือที่ดี รัฐบาลผสมก็มีส่วนดี มันเช็กแอนด์บาลานซ์

เมื่อถามว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรอหลังเลือกตั้งแล้วหารือกัน เพราะมีปัจจัยจำนวนมากให้ต้องคิด ทั้งเสียง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้ ทั้งท่าทีของ ส.ว.

เมื่อถามว่าการโจมตีทางการเมืองที่เกิดขึ้นกับพรรคภูมิใจไทย กระทบกับคะแนนเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนมองว่าพรรคเรามีราคา ก็ต้องถูกด้อยค่า แค่นั้นเอง เราจะไม่ไปสู้ แต่จะลุยหาเสียง สร้างความไว้ใจกับประชาชนดีกว่า เพราะการที่เรามามัวโต้ตอบ อาจทำให้เราพลาดลงพื้นที่ไป 10-20 ตำบล

เรื่องที่เขาพูด มันชัดอยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริง อย่างเรื่องเงินเข้าธนาคาร 30,000 ล้านบาท มันเป็นไปได้ที่ไหน เงินเข้ามาขนาดนี้ ถูกตรวจสอบตาย แล้วมาบอกว่ามีทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม นี่ก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องยังไม่ผ่านครม.เลย กาลเวลาจะพิสูจน์เอง


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top