Friday, 10 May 2024
Klang Time Team

6 ธันวาคม ‘วันริบบิ้นขาว’ สัญลักษณ์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี รำลึกถึงเหตุฆาตกรรมหญิง 14 ราย ที่แคนาดา

ทุกวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันริบบิ้นขาว (White Ribbon Day) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วันชาติแห่งการรำลึกและยุติความรุนแรงต่อสตรี (National Day of Remembrance and Action on Violence against Women) ของแคนาดา

ทุกวันที่ 6 ธันวาคมของทุกปีเป็นวันริบบิ้นขาว (White Ribbon Day) หรือที่รู้จักกันในชื่อ วันชาติแห่งการรำลึกและยุติความรุนแรงต่อสตรี (National Day of Remembrance and Action on Violence against Women) ซึ่งเป็นวันสำคัญของประเทศแคนาดา โดยเริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 เพื่อเป็นการรำลังถึงเหตุฆาตกรรมที่วิทยาลัยสารพัดช่าง ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 14 รายและเป็นเพศหญิงทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่เหตุการณ์ยุติลงคนร้ายได้ออกมาประกาศตัวว่าต่อต้านสิทธิสตรี

ประมวลภาพบรรยายกาศวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565

ปทุมธานี ปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี นายคิว อรุโณรส นายกสมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี (ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยคมนาคม) พร้อมคณะกรรมการสมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่9 โดยมีนางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอสามโคก เป็นประธานในพิธี

นายชัยวัฒน์ หมู่เย็น นายกเทศมนตรีตำบลบางเตย ร่วมปล่อยขบวนนักปั่นจักรยานจำนวน 300 คัน เริ่มจุดสตาร์ท ที่หน้าว่าการอำเภอสามโคก จากนั้นปั่นไปที่ ตลาดโรงเกลือท้ายเกาะ วัดท่าซุงทักษิณาราม จ.พระนครศรีอยุธยา วัดท้ายเกาะใหญ่ วัดโบสถ์ (สามโคก) และกลับมายังที่ว่าการอำเภอสามโคก รวมระยะทาง 39 กม. ซึ่งมีกลุ่มชมรมนักปั่นจักรยานต่างๆในจังหวัดปทุมธานีและพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมประชาชน นำรถจักรยานมาร่วมในงานดังกล่าว

สระบุรี จัดกิจกรรมจิตอาสา เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565
วันที่ (5 ธันวาคม 2565) เวลา 10.00 น. บริเวณวัดชัยเฉลิมมิตร ตำบลคชสิทธิ์ อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี นางอังคณา ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมพัฒนา ปรับปรุงภูมิทัศน์ทำความสะอาดชุมชนริมแม่น้ำ/คู/คลอง เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) เพื่อถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนจิตอาสา นักเรียน นักศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การทำความสะอาดบริเวณวัด การนำเยาวชนจัดทำถังขยะเปียกลดมลพิษเพื่อขยายผลไปยังครอบครัว ชุมชน หมู่บ้านปลูกต้นไม้สร้างความร่มรื่น ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำถวายเป็นพระกุศล ทำความสะอาดทาสี อาคาร สะพาน และปลูกต้นไม้เนื่องในวันดินโลกอีกด้วย

5 ธันวาคม วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และภายหลังการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 สำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เรื่อง กำหนดวันสำคัญของชาติไทย มีใจความสำคัญให้วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย ดังนี้ 

1. เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 

2. เป็นวันชาติ 

3. เป็นวันพ่อแห่งชาติ

โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป 

4 ธันวาคม ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9 ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงสิ่งแวดล้อมไทย

วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทย

วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลก เมื่อครั้งเสด็จออกให้คณะบุคคลต่าง ๆ เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลา ดุสิดาลัย พระตำหนัก จิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2532 เพื่อตรัสเตือนคนไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และให้ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกันแก้ไข้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้มีพระราชดำรัสใจความตอนหนึ่งว่า

“วันก่อนนี้เราพูดถึงปัญหาว่า เมืองไทยนี้อีกหน่อยจะแห้ง ไม่มีน้ำเหลือจะต้องไปซื้อน้ำจากต่างประเทศซึ่งก็อาจเป็นได้ แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าถ้าคำนวณดูน้ำในประเทศไทยที่ไหลเวียนนั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ต้องบริหารให้ดี ถ้าบริหารให้ดีแล้ว มีเหลือเฟือ มีตัวเลขแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ไปแยกแยะตัวเลข เหมือนที่ได้แยกแยะตัวเลขของคาร์บอน น้ำนั้นน่ะ ในโลกมีมากแล้วที่ใช้จริงๆ มันเป็นเศษหนึ่งส่วนหมื่นของน้ำที่มีอยู่ อาจไม่ถึง ก็ต้องบริหารให้ดีเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ก็มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำ น้ำนี้จะต้องใช้ให้ดี คือ น้ำนั้นมีคุณอย่างที่เราใช้สำหรับบริโภค น้ำสำหรับการเกษตร น้ำสำหรับอุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ต้องใช้น้ำที่ดี หมายความว่าน้ำที่สะอาด”

“น้ำมีมากในโลก เป็นน้ำทะเลส่วนใหญ่ซึ่งจะใช้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว นอกจากนั้นเดี๋ยวนี้ที่กำลังมีมากขึ้นก็คือ น้ำเน่า จะต้องป้องกันไม่ให้มีน้ำเน่า น้ำเน่าจะมีอยู่เสมอ แต่อย่าให้น้ำเน่านั้นเป็นโทษมากเกินไป ฉะนั้น นี่เป็นอีกโครงการหนึ่งที่เราจะต้องปฏิบัติ แล้วก็ถ้าไม่จัดการโดยเร็วเราจะนอนอยู่ในน้ำเน่า น้ำดีจะไม่มีใช้แม้จะไปซื้อน้ำจากต่างประเทศมา ก็กลายเป็นน้ำเน่าหมด เพราะว่าเอามาใช้โดยไม่ได้ระมัดระวัง”

“ถ้าเรามีน้ำแล้วมาใช้อย่างระมัดระวังข้อหนึ่ง และควบคุมน้ำที่เสียอย่างดีอีกข้อหนึ่ง ก็อยู่ได้ เพราะว่าภูมิประเทศของประเทศไทย ‘ยังให้’ ใช้คำว่า ‘ยังให้’ ก็หมายความว่า ยังเหมาะแก่การอยู่กินในประเทศนี้ ไม่ใช่ไม่เหมาะ ประเทศไทยนี้เป็นที่ที่เหมาะมากในการตั้งถิ่นฐาน แต่ว่าต้องรักษาเอาไว้ไม่ทำให้ประเทศไทยซึ่งเป็นสวนเป็นนากลายเป็นทะเลทรายก็ป้องกันได้ ทำได้”

รมว.เฮ้ง จัดงาน "ช้อปของที่ใช่...ให้คนที่ชอบ" เปิดตัว E–Catalog สร้างรายได้ให้แรงงานนอกระบบ

กรมการจัดหางาน เชิญประชาชนช้อปของขวัญปีใหม่ จัดงาน "ช้อปของที่ใช่...ให้คนที่ชอบ" แสดงสินค้ากลุ่มอาชีพอิสระที่กรมการจัดหางานสนับสนุน พร้อมเปิดตัว E–Catalog เพิ่มความสะดวก เลือกซื้อสินค้าแบบ New Normal

วันที่ 2 ธันวาคม 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 กระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงแรงงาน จึงชวนกลุ่มอาชีพอิสระที่กรมการจัดหางานสนับสนุน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร่วมออกบูทในงาน "ช้อปของที่ใช่...ให้คนที่ชอบ" โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาชีพจากกลุ่มอาชีพอิสระที่กรมการจัดหางานสนับสนุน (กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน) ทั้งจากกรุงเทพมหานคร และจากจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ กลุ่มกระเป๋าดีมีสไตล์ กลุ่มหัตถกรรมทองลงหิน กลุ่มแม่บ้านชุมชนบ้านครัวตะวันตก งานปักเลื่อมลูกปัด ปักไหม กลุ่มกลึงไม้ตาล ผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนจากไม้ตาล กลุ่มสตรีอาสาบ้านพวน  ทอผ้ามัดหมี่ กลุ่มแปรรูปเส้นกกตำบลบางพลวง กลุ่มโอ่งผ้าไหมประดิษฐ์ และกลุ่ม khonlabai Craft กระเป๋าแฮนด์เมด เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการเลือกซื้อของขวัญปีใหม่เป็นของฝากให้คนสำคัญ มาเลือกช้อป ณ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย Smart Job center กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน พร้อมเปิดตัว E – Catalog สำหรับเป็นช่องทางนำเสนอสินค้าของกลุ่มอาชีพอิสระในรูปแบบออนไลน์ โดยขณะนี้มีการรวบรวมสินค้าของกลุ่มฯ ไว้กว่า 63 กลุ่ม 45 จังหวัด มีผลิตภัณฑ์ 378 รายการ ให้ผู้ที่สนใจสินค้าสามารถเลือกชมสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา

“สำหรับใครที่กำลังเตรียม “ช้อปของที่ใช่...ให้คนที่ชอบ” ในเทศกาลปีใหม่ ผมขอฝากสินค้าคุณภาพจากกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ เพราะนอกจากมีสินค้าให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังเป็นการอุดหนุนสินค้าท้องถิ่น ในประเทศไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างโอกาสทางอาชีพ กระจายรายได้สู่แรงงานนอกระบบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว 

ปตท. มอบรางวัล การประกวดการพัฒนา - รณรงค์ใช้ ‘หญ้าแฝก’ เพื่อเป็นแบบอย่างการอนุรักษ์ดิน-น้ำอย่างยั่งยืน

ปตท. จัดพิธีมอบรางวัลการประกวดการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563 - 2565

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 12 (ประจำปี 2563 - 2565) ภายใต้แนวคิด ‘รักษ์น้ำ ป่า ดิน ด้วยแฝกองค์ภูมินทร์ ฟื้นถิ่น ยั่งยืน’ ภายใต้ความร่วมมือขององค์กรร่วมจัด ได้แก่ มูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) กรมพัฒนาที่ดิน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อส่งเสริมการขยายผลการปลูกหญ้าแฝกให้เป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน

การจัดการประกวดครั้งนี้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานโล่รางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวด ส่วนผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศและรางวัลชมเชยได้รับโล่พร้อมรับเกียรติบัตรจากองค์กรร่วมจัด โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดทั้งสิ้น 58 ผลงาน ซึ่งแบ่งการประกวดออกเป็น 2 ประเภทผลงาน คือ 

"บิ๊กตู่" ให้กำลังใจผู้พิการสร้างอาชีพ สู้ชีวิต ยันรัฐบาลไม่ทิ้งทุกคน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธ.ค.ที่อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วันคนพิการสากล ประจำปี 2565” และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่คนพิการต้นแบบ และหน่วยงาน องค์กร ที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ประจำปี 2565

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "สวัสดีเช้าวันที่สดใส อากาศข้างนอกก็ดี มาวันนี้ได้เห็นบรรยากาศท่ามกลางพวกเราจำนวนมากมีทั้งคนต่างประเทศ คนไทย ถือเป็นวันสำคัญของตนอีกวันหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องดูแลให้มากที่สุด ตนติดตามมาตลอด วันนี้มีความสุขมีความสบายใจ เป็นเกียรติที่ได้มาเปิดงานคนพิการสากลประจำปี 2565 และขอชื่นชมที่ได้เห็นศักยภาพคนพิการหลายท่าน หลายกลุ่มหลายอาชีพที่แสดงออกทั้งในส่วนของตนเองและผู้สนับสนุนต่าง ๆ ทั้งเอกชน ภาคธุรกิจ ซึ่งบางทีมีกฎระเบียบเยอะ ส่วนสำคัญสุดไม่มีใครแก้ปัญหาได้โดยลำพัง ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ทุกกลุ่ม ทุกคนทุกฝ่ายต้องช่วยกันค่อย ๆ เดินไปข้างหน้าจะเร็วขึ้น หลายๆท่านตนเห็นแล้วสู้ชีวิตจริง ๆ วันนี้เป็นวันที่ เห็นแล้วรู้สึกตื้นตัน เมื่อมาเจอ แม้พวกท่านมีโอกาสน้อยแต่ก็พยายามสู้ชีวิตมาจนถึงวันนี้ ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ คนที่มีครบ 32 ไม่ทำแบบเขาบ้าง ทำสิ่งดี ๆ งามที่ถูกต้อง ตนขอแค่นั้นเอง เขาพยายามใช้ศักยภาพของเขาอย่างเต็มที่ขอฝากด้วย"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้ใจเข้มแข็ง ความพิการไม่ใช่อุปสรรค แต่ถ้าเราได้รับการดูแลซึ่งกันและกันคิดว่าเขาอยู่ได้ คนปกติก็เผื่อแผ่ให้กำลังใจช่วยเหลือในทุกโอกาสที่เขาทำได้เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ วันนี้เราพยายามสร้างโอกาส สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมให้ทุกคนทุกฝ่าย มุ่งไปสู่การเป็นสังคม สู่โอกาสหรือสังคมแห่งโอกาสของพวกเราทุกคน เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เรามีคนตั้ง 70 ล้านคน วันนี้ยอดประมาณ 3 ล้านกว่าเป็นคนพิการ ถือเป็นสัดส่วนที่มากพอสมควร คือไม่อยากให้มีคนพิการ ซึ่งก็มีอย่างอื่นมาเพิ่ม ทั้งสังคมผู้สูงวัย เพราะทุกคนแข็งแรงขึ้น อายุยืน อยู่นานขึ้น ซึ่งระบบสุขภาพเราก็ทำได้ดีขึ้น ทำอย่างไรจะเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองและประเทศชาติ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยกระดับคนพิการคือ การขึ้นทะเบียนคนพิการเพื่อพัฒนาให้รวดเร็วขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านได้รับสวัสดิการครอบคลุมอย่างทั่วถึง

ปตท. จัดงาน ‘Gas Grows Zerotopia 2022’ ส่งเสริมอุตฯ ไทย ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

เมื่อวันที่ 25 - 26 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นเจ้าภาพจัดงานเสวนาวิชาการและนิทรรศการ Gas Grows Zerotopia 2022 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยมี ม.ล. ปีกทอง ทองใหญ่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นางสุณี อารีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ระบบท่อจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมงาน เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ พร้อมให้การสนับสนุนเกี่ยวกับการจัดการพลังงาน รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เครื่องจักรให้กับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการลดภาระต้นทุนในช่วงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ผันผวน โดย ม.ล. ปีกทอง ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ ‘สถานการณ์พลังงานและแนวทางการนำไปสู่เป้าหมาย Net Zero’ 

ทั้งนี้ ปตท. ในฐานะประธานเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network: TCNN) มุ่งหวังสร้างความร่วมมือกับภาคีต่าง ๆ ในการตระหนักและผลักดันทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

บุกยึดไอซ์ 4.04 กก. ซุกหมอนเตรียมส่งฮ่องกง!! พร้อมขยายผลจับกุมอาชญากรต่างชาติ

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยผลการดำเนินงานภายใต้ชุดปฏิบัติการร่วมโครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าเรือ (seaport interdiction task force: SITF) ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. บช.ปส. ศุลกากร และศูนย์รักษาความปลอดภัย ตรวจยึดไอซ์ 4.04 กก. ซุกซ่อนในหมอนยางพารา เหตุเกิดที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ชุดปฏิบัติการ SITF ได้ตรวจสอบพัสดุต้องสงสัยขาออก ปลายทางระบุชื่อผู้รับในเกาลูนเบย์ ฮ่องกง โดยสำแดงเป็นหมอน

จากการสืบสวนขยายผล ผู้ส่งเป็นผู้ต้องหาสัญชาติจีน อาศัยอยู่ในเขตวังทองหลาง กทม. มีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการค้ายาเสพติดชาวต่างชาติ โดยมีประวัติการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปต่างประเทศ จึงขยายผลและเข้าจับกุมได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง หลังการจับกุมได้ทำการตรวจค้นที่บ้านพัก ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย แต่พบลังใส่หมอนพาราจำนวนมาก ลักษณะเดียวกับที่ตรวจยึดได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ

วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานกำกับกฎเกณฑ์และกฎหมาย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และพันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ รอง จตช. และผู้บริหารของทั้ง 4 หน่วยงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวประชาสัมพันธ์ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถ หรือระบบตัดแต้ม และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อสร้างระบบดังกล่าว ให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานสากล ระบบบันทึกคะแนนความประพฤติ กำหนดไว้ใน “ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565” ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 142/1 โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นมาตรการเสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่งเพื่อบังคับใช้กฎหมายตามปกติ ภายใต้สโลแกน “มุ่งเน้นการสร้างวินัยการขับขี่ปลอดภัย ให้โอกาสแก้ไขไม่กระทำผิดซ้ำ สร้างความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย และเป็นมาตรฐานสากล”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า สาระสำคัญของระบบนี้ คือ กำหนดให้ผู้ที่มีใบอนุญาตขับขี่แต่ละราย จะมีคะแนนความประพฤติคนละ 12 คะแนน  (ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม) หากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้ จะถูกตัดคะแนนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้ 
การตัดคะแนน 
1) กลุ่มความผิดหลักที่เป็นปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุ (20 ฐานความผิด) จะถูกตัดคะแนนเมื่อทำผิดทันที โดยความผิดในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
 - ตัด 1 คะแนน  เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
 - ตัด 2 คะแนน  เช่น  ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ฝ่าไฟแดง)  
 - ตัด 3 คะแนน  เช่น ขับรถชนแล้วหนี 
 - ตัด 4 คะแนน  เช่น เมาแล้วขับ ขับรถในขณะเสพยาเสพติด 
2) กลุ่มความผิดอื่นๆ ตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวกับรถหรือการใช้ทาง จำนวน 42 ฐานความผิด ตามบัญชีท้ายระเบียบ ความผิดกลุ่มนี้จะถูกตัดคะแนนเฉพาะกรณีไม่ชำระค่าปรับตามใบสั่งในเวลาที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรในทาง จอดในที่ห้ามจอด ไม่แสดงใบอนุญาตขับขี่ขณะขับรถ เป็นต้น 

วิธีการตัดคะแนนนั้น จะดำเนินการโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ระบบฐานข้อมูลใบสั่ง PTM ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการบันทึกการทำผิดกฎจราจรและตัดคะแนนในแต่ละครั้ง  

การสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่
- หากผู้ขับขี่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน  จะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ หรือห้ามขับรถ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าว และหากฝ่าฝืนไปขับรถในขณะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 156  
- หากถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายใน 3 ปี อาจจะถูกสั่งพักใช้มากกว่า 90 วัน  และหากยังถูก
สั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อีกเป็นครั้งที่ 4 อาจถูกพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top