Saturday, 27 April 2024
NEWS

‘อนุทิน’ ชี้ ประเทศไหนที่ต้องตรวจโควิดก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพ ไม่เฉพาะแค่ประเทศจีน

‘อนุทิน’ ยันมาตรการรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ รัดกุม เผยให้ซื้อประกันสุขภาพ สำหรับประเทศตีกรอบต้องตรวจRT-PCR พร้อมจับมือตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกฯ ลั่น!! อย่าตระหนก จนเสียโอกาสฟื้นเศรษฐกิจ เผยจับมือ ‘ศักดิ์สยาม-พิพัฒน์’ รับนักท่องเที่ยวไฟลท์แรกถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 12 ม.ค.นี้

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน มีกระทรวงคมนาคม กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วม ว่า วันนี้เป็นการทำความเข้าใจเรื่องของการรับนักท่องเที่ยว ทั้งด้านการคมนาคม ท่องเที่ยว และสาธารณสุข โดยแต่ละหน่วยงาน รับทราบมาตรการและรับปฏิบัติ ขณะที่ กทม.พร้อมให้ความร่วมมืออย่างดี ยืนยันว่ามีมาตรการพร้อมรับนักท่องเที่ยวในทุกมิติ และสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ตลอดตามความเหมาะสม โดยจะตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารขอให้คงมาตรฐานชาพลัส (SHA+) ผู้ให้บริการสวมหน้ากากอนามัย

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าประเทศที่มีข้อกำหนดให้นักท่องเที่ยวจะต้องตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศตัวเองนั้น จะต้องซื้อประกันสุขภาพ ทุกประเทศไม่เฉพาะแค่ประเทศจีนประเทศ โดยเงื่อนไขของประกันเป็นไปตามหลักสากลในการรักษาพยาบาล และยังครอบคลุมโควิด-19 หากตรวจพบสามารถรักษาตามปกติ ส่วนประเทศใดที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจRT PCR ขอแนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพไว้เช่นกัน เพื่อความสะดวกด้านต่างๆ หากมีการติดเชื้อหรือเจ็บป่วย จะมีสถานที่รักษา สำหรับประเด็นค่าเหยียบแผ่นดิน ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวถือเป็นคนละเรื่องกัน และยังไม่ได้มีผลบังคับใช้

ทม.ราชบุรี จัดอบรมนักเรียนให้มีความรู้เรื่องการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน

วันนี้ (5 ม.ค.65) นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ได้ทดลองทำการ การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือ CPR  กับผู้ป่วย หลังเป็นประธานในการเปิดโครงการฝึกอบรม ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) ที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาดรุณาราชบุรี  อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีนางสาวทัธนา สุวรรณชัย ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองราชบุรี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการนี้

เนื่องจากในปัจจุบัน สาเหตุการเสียชีวิตของประชากรในประเทศส่วนใหญ่ เกิดจากโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและหลอดเลือด, โรคหัวใจ, โรคความดันโลหิตสูง และอุบัติเหตุ ซึ่งผู้ป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บเหล่านี้ อาจจะมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือบางรายอาจจะมีสภาวะการหยุดหายใจกะทันหัน ถ้าปล่อยไว้นานเกินก็จะเกิดสภาวะการตายของสมอง

‘ศักดิ์สยาม’ ลงนามตั้ง 10 คณะกรรมการ สอบปมเปลี่ยนป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ

(5 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงนามในคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างในโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ ‘สถานีกลางบางซื่อ’ เป็น ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แล้ว

โดยประกาศเนื้อหาระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย (Social Media) และ เว็บไซต์ข่าว เกี่ยวกับการลงนามในสัญญาจ้างการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีมูลค่าสูงถึง 33 ล้านบาทเศษ (วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรจำนวน 34 ล้านบาท) มีราคากลางคำนวณ ณ วันที่ 9 ธันวาคม 2566 จำนวน 33,169,726.39 บาท โดยใช้วิธีการจัดซื้อหรือจ้างแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งผู้ที่ได้รับ การคัดเลือกและราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง ได้แก่ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ

เป็นเหตุให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงความเหมาะสมในการใช้งบประมาณ รวมถึงนายสราวุธ สราญวงศ์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากไม่ใช่เหตุของความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสูญเสียงบประมาณในการว่าจ้างปรับปรุงป้ายชื่อที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าปกติ

ชน 4 คันรวด!! สะพานต่างระดับฉิมพลี ซีวิคเป็นเหตุ สลดตาย 1 สาหัส 1

ซีวิคเสียหลัก เสยท้ายหกล้อ หมุนชนด้านข้างสิบล้อบรรทุกข้าว-กระเด็นเกี่ยวเก๋งบริโอ้ ส่วนซีวิคสภาพพังยับ ตาย 1 เจ็บสาหัส 1

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.66 เวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน มีผู้ติดค้างภายในรถ เหตุเกิดบนสะพานต่างระดับฉิมพลี ถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าบางแค แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานยกระดับ เป็นถนน 3 เลน พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพพังยับทั้งคันจอดอยู่เลนขวาสุด ภายในรถมีคนติดอยู่ 2 ราย เป็นชายและหญิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เร่งใช้อุปกรณ์ตัดถ่างเข้าช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงพาทั้งคู่ออกมาได้ โดยฝ่ายชายได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรชัย แตงอ่อน อายุ 21 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์บางแค ส่วนฝ่ายหญิงทราบชื่อ คือ น.ส.สุวิภา มีเค้า อายุ 21 ปี เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นบริโอ้ สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพชนติดอยู่กับด้านข้างรถบรรทุกหกล้อ สีขาว ทะเบียนนครปฐม มี นายสมชัย จอมขวัญ เป็นคนขับ จอดนิ่งสนิทในลักษณะย้อนศรอยู่เลนกลางถนน นอกจากนี้ ยังมีรถสิบล้อบรรทุกข้าว สีขาว ทะเบียนอุบลราชธานี ได้รับความเสียหายที่ด้านขวาของตัวรถอีก 1 คัน เจ้าหน้าที่ต้องปิดสะพานต่างระดับ เพื่อความปลอดภัย และป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

‘อนุทิน’ ย้ำ มาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทุกชาติเท่าเทียม ชี้ ปรับตามสถานการณ์ที่เปลี่ยน วอน อย่าตั้งป้อมรับจีน เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน

(5 ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเตรียมความพร้อมรับผู้เดินทางเข้าประเทศจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ว่า วันนี้ข้อสรุปแต่ละมาตรการมีอยู่แล้ว และจะนำมาหารือและแจ้งให้แต่ละหน่วยงานทราบในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเขามาในไทย ที่คาดว่าในต้นปีจะมีประมาณ 4-5 หมื่นคน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบมาตรการรองรับสถานการณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย และเป็นไปในแนวทางเดียวกัน แล้วจะสอบถามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องค่าเหยียบแผ่นดิน ที่เปรียบเหมือนการทำประกันของนักท่องเที่ยว ที่จะต้องดูนักท่องเที่ยวที่เจ็บป่วย ไม่เฉพาะโควิด-19 จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ จะได้มีงบประมาณดำเนินการ ขณะที่ระบบสาธารณสุขของไทย ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ก็มีงบประมาณก้อนหนึ่งสำหรับดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่านักท่องเที่ยวจีนจะต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทันทีที่ถึงสนามบินหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้กรมควบคุมโรค จะกำหนดมาตรการออกมาตามสถานการณ์ และจะมีข้อกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติ และต้องทำเต็มที่กับทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เมื่อถามว่ามาตรการป้องกันกรณีที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาครั้งนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เราจะใช้มาตรการที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด และเรารับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่อีกทางจะต้องเน้นที่ตัวเองต้องหุ้มเกราะ คือฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อย 4 เข็มเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะและพื้นที่แออัด ในส่วนของนักท่องเที่ยวจีน เขามีการตรวจก่อนเดินทางออกนอกประเทศและเมื่อกลับเข้าประเทศ ในขณะที่สถานทูตจีน ได้ประสานกับโรงพยาบาลที่จะทำการรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นักท่องเที่ยว ที่เข้ามาสามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศ ไม่ได้แบ่งว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาติไหน เพราะเราถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ละคนก็มาจากประเทศที่มีการติดเชื้ออยู่ที่ว่าจะเป็นเชื้อใหม่หรือเก่า ถ้าเป็นเชื้อใหม่ มาตรการรับมือก็เปลี่ยนได้ ดังนั้นอย่านำมาตรการของไทยไปเทียบกับประเทศอื่น เพราะนี่ประเทศไทยไม่เหมือนกัน

สระบุรี สรุปผลอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ใน 7 วันอันตราย

วันนี้ (4 ม.ค. 66) นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมติดตามผลการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ของจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นวันที่ 7 ของช่วงควบคุมเข้มข้น และในวันที่ 3 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ในการประชุมได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางให้ทุกด่านที่ตั้งบนถนนสายหลัก และสายรองเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่จนถึงเวลาปิดจุดตรวจ

สรุปผลการดำเนินงาน 6 วันของการรณรงค์ วันที่ 29 ธันวาคม 2565-3 มกราคม 2566 เกิดอุบัติเหตุ 19 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์และรถเก๋ง สาเหตุจากการขับรถเร็วและตัดหน้ากระชั้นชิด จากการดำเนินการตามมาตรการ มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 1,829 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 249 ราย เมาสุรา 219 ราย ไม่มีใบขับขี่ 431 ราย ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 469 ราย ขับรถย้อนศร 118 ราย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 43 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 223 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ 72 ราย ใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ 4 ราย แซงในที่คับขัน 1 ราย

‘อนุทิน’ แจงมาตรการป้องกันโควิดรับนักท่องเที่ยวยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติ เน้นรับวัคซีน มีประกันสุขภาพ ตรวจสายพันธุ์ไวรัสในน้ำเสียจากเครื่องบินเพื่อการเฝ้าระวัง

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจงมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน เตรียมเสนอวันที่ 5 มกราคมนี้ ยึดหลักปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกชาติและเป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการ ตรวจเฝ้าระวังเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในน้ำเสียจากเครื่องบิน ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม มีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 พร้อมสื่อสารมาตรการป้องกันตนเอง คาดนักท่องเที่ยวจีนจะทยอยเดินทางมาไตรมาสแรก 3 แสนคน สามารถวางแผนรับมือได้อย่างเป็นระบบ

(4 ม.ค.66) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมรองรับผู้เดินทางจากประเทศจีน ภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยมีแนวโน้มลดลง โดยข้อมูลวันที่ 25-31 ธันวาคม 2565 มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,111 ราย เฉลี่ย 301 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 529 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 352 ราย และผู้เสียชีวิต 75 ราย เฉลี่ย 10 รายต่อวัน โดยเกือบทั้งหมดยังเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป โดยกระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ทุกคนฉีดวัคซีนให้ครบ 4 เข็ม เว้นระยะห่างทุก 4 เดือน ซึ่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการรับบริการวัคซีนเพิ่มขึ้น 277,206 โดส สะสม 145,928,256 โดส โดยเป็นเข็มแรกร้อยละ 82.7 เข็มที่ 2 ร้อยละ 77.7 เข็มที่ 3 ร้อยละ 38.9 และเข็มที่ 4 ร้อยละ 9.1

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีจีนเตรียมเปิดประเทศ จากการประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) มีประมาณ 3 แสนคน คิดเป็น 5% ของนักท่องเที่ยวทุกชาติรวมกัน คาดว่ามกราคมจะเข้ามา 60,000 คน กุมภาพันธ์ 90,000 คน และมีนาคม 150,000 คน โดยจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากปัจจุบันยังมีเที่ยวบินจำกัด มีระยะเวลาในการขอทำหนังสือเดินทางและการขอวีซ่า และรัฐบาลจีนยังไม่อนุญาตให้บริษัทนำเที่ยวนำกลุ่มทัวร์ออกนอกประเทศ ผู้เดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเองและเป็นกลุ่มนักเดินทางระดับบนที่มีกำลังซื้อ

เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะออกตรวจเยี่ยมจุดตรวจและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานจุดตรวจ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะออกตรวจเยี่ยมจุดตรวจและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานจุดตรวจ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ณ จุดตรวจสนามกีฬากลีบบัว จังหวัดกาญจนบุรี

โดยได้ทำการเข้าตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจแก่ ทีมแพทย์, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วย แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉิน โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อแทนคำขอบคุณที่คอยดูแล ช่วยเหลือ และ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566

พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จังหวัดสมุทรปราการ จัดทำบุญแจกทานครั้งใหญ่ ในโอกาสครบรอบ บวชพระในร่มกาสาวพัสตร์ ครบ 40 ปี

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 เวลา 12.00 น. ที่วัดบางพลีใหญ่กลาง ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ถือโอกาสเนื่องในเทศกาลต้อนรับปีใหม่ (ปีเถาะ) และ เนื่องในโอกาสครบรอบบวชพระในร่มกาสาวพัสตร์ ครบ 40 ปี ได้เมตตาจัดตั้งโรงทานแจกอาหารปรุงสุกแก่พี่น้องประชาชน

อีกทั้งยังได้มอบข้าวสารให้แก่พี่น้องประชาชน คนละ 10 กิโลกรัม รวมถึงได้มอบเงินช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนที่ ยากจน ผู้พิการ และ ประชาชนผู้สูงอายุ อีกคนละ 1,000 บาท รวม 1,000 คน เป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท

โดยท่านพระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ดร. เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง พร้อมด้วย ท่านพระครูวิทูรกิจจาทร รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนามแดง มีความประสงค์ที่จะมอบเงินช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชน ผู้พิการ ผู้สูงอายุ อาทิ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่คอยปฎิบัติหน้าที่เก็บศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร สภ.บางพลี

ผอ.ฟ้า เป็นประธานฝ่ายฆราวาสจัดพิธีอุปสมบทพระสงฆ์ 10 รูป ถวายสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา

วันที่ 3 ม.ค.65 ที่วัดช่องลม ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้จัดให้มีพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่พระสงฆ์ 10 รูป เพื่อเป็นการถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้ทรงหายจากอาการพระประชวร โดยมีนางพรทิพา สุพัฒนุกูล ผอ.สถานีโทรทัศน์ฟ้าให้ทีวี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ขณะที่ พ.อ.เนตรรัตนะ จุลเนตร ผบ.กองพันระวังป้องกันกองบัญชาการกองทัพไทย นำทหารจำนวน 9 นาย และพลเรือน จำนวน 1 คน ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีพิธีปลงผมนาค พิธีเจริญพุทธมนต์ ก่อนจะบรรพชาอุปสมบทหมู่พร้อมกันทั้ง 10 รูป

ทั้งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันทำบุญและประกอบศาสนกิจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวร และทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงในเร็ววันและเป็นการแสดงอานิสงส์จากการรวมความศรัทธาและความจงรักภักดีถวายพระพรแด่พระองค์ท่านในโอกาสนี้ด้วยนอกจากนี้ ผอ.ฟ้ายังถวายปัจจัยเพื่อร่วมทำบุญ จำนวน 2 แสนบาท อีกด้วย

กรุงเทพฯ ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ ยังไม่เกินมาตรฐาน คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี

วันนี้ (3 มกราคม 2566) เช็กค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล "ไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่" คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี แนะประชาชนตรวจสอบข้อมูลอากาศก่อนออกจากบ้าน

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร เวลา 07.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2566 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 24-41 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ไม่เกินมาตรฐานทุกพื้นที่ที่มีการตรวจวัด (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) ดัชนีคุณภาพอากาศ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศดี

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่ามีอากาศเย็น โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา) คือ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 2 - 8 ม.ค. 66 อากาศมีเสถียรภาพ ประกอบกับเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราการระบายอ่อน/ ไม่ดีในช่วงเวลาดังกล่าว (ยกเว้นวันที่ 5 และ 6 ม.ค.66 ที่อัตราการระบายดี/ดีมาก) ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 ค่อนข้างทรงตัว วันนี้กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส

เปิดศักราช 2566 ยอดเมาขับพุ่ง! สะสม 4 วัน 4,300 คดี นนทบุรีแชมป์

เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2566 อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ เฉพาะวันที่ 1 มกราคม 2566 มี 2,666 คดี รวมยอด 4 วัน 4,508 คดี เพื่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีการดำเนินคดีแค่ 52 คดี โดยมีจังหวัดนนทบุรี ครองแชมป์ถูกจับเมาขับมากสุด

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีขับรถขณะเมาสุราที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ ต้อนรับวันปีใหม่ 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 2,666 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 2,613 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.01 คดีขับเสพ 53 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.99 ซึ่งสถิติยอดรวมสะสม 4 วัน ที่มีการควบคุมเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 1 มกราคม 2566 มีจำนวน 4,508 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 4,300 คดี คดีขับรถประมาท 11 คดี และคดีขับเสพ 197 คดี

จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ ร้อยเอ็ด 255 คดี นนทบุรี 252 และ เลย 245 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่สี่ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2565 จำนวน 52 คดี และ ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 2,613 คดี เพิ่มขึ้น 2,561 คดี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่

วันนี้ (29 ธ.ค.65) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมการเตรียมการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 และเตรียมความพร้อมกรณีสาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดประเทศ และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระล่าช้า พร้อมด้วยนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงคมนาคม โดยมี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.), นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ทอท.), นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม, ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม ในวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้าและออกประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งภายหลังจากที่ประเทศไทยเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ปริมาณการเดินทางทางอากาศของประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน ให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ไขปัญหาความแออัดภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งความล่าช้าของขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากการดำเนินการพบว่าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

ท่าอากาศยานมีความพร้อมในการรองรับผู้โดยสารที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวก บริเวณพื้นที่ตรวจหนังสือเดินทางทั้งขาเข้าและขาออก เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 4 นาที (นับตั้งแต่ผู้โดยสารเดินเข้าสู่พื้นที่รอคอยจนถึงการลงตรา) สำหรับช่วงเวลาคับคั่งที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก ผู้โดยสารจะใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ยคนละ 15 นาที รวมทั้งจัดระเบียบคิวผู้โดยสารที่รอรับบริการ

ในส่วนของการให้บริการกระเป๋าสัมภาระผู้ โดยสารได้ตรวจสอบระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณสัมภาระ พร้อมทั้งกำชับผู้ให้บริการภาคพื้นที่ให้บริการขนถ่ายสัมภาระผู้โดยสารทั้ง 2 ราย คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด ในการดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ตรงตามเวลาที่กำหนด ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที

ทั้งนี้ ระยะเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระในแต่ละเที่ยวบิน ขึ้นอยู่กับระยะทางของหลุมจอดอากาศยานกับจุดขนถ่ายสัมภาระ ซึ่งจากที่ผ่านมาพบว่าปัญหาความล่าช้าของกระเป๋าสัมภาระ ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเที่ยวบินล่าช้า (Flight Delay)

รวมทั้งการขาดบุคลากรและอุปกรณ์ในการให้บริการภาคพื้น เนื่องจากช่วงของการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผู้ประกอบการประสบปัญหาการขาดแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ให้บริการภาคพื้นเร่งจัดสรรกำลังคนมาบริหารจัดการสัมภาระผู้โดยสารเป็นอันดับแรก โดยต้องมีบุคลากรให้เพียงพอและสอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการรับกระเป๋าสัมภาระ ทั้งในเที่ยวบินปกติและกรณีที่มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้น

สำหรับปัญหาการรอคิวใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะนานที่ผ่านมา ปัจจุบัน ทาภ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและเปิดช่องทางแท็กซี่เพิ่มเพื่อให้รถแท็กซี่สามารถเข้ามารับผู้ใช้บริการได้เร็วขึ้น รวมทั้งขยายขยายพื้นที่รอคอยกดตั๋วแท็กซี่ และกำหนดจุดยืนรอคิวรับบริการแท็กซี่ เพื่อความเป็นระเบียบและลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารสามารถลดระยะเวลาการรอคิว เหลือเพียงประมาณ 10 นาทีต่อคน

ชมความอลังการ ดอกไม้เมืองหนาวพื้นที่สูงแก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี

(29 ธ.ค.65) บรรยากาศท่องเที่ยววันหยุดยาวต่อเนื่อง พื้นที่สูงแก่นมะกรูดพื้นที่โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ หรือโครงการปิดทองหลังพระ ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีที่ถูกขนานนามว่าหนาวสุดกลางสยาม เริ่มคึกคักนักท่องเที่ยวขึ้นชมสวนพฤกศาสตร์ดอกไม้เมืองเหนือสวยงาม

บรรยากาศท่องเที่ยวที่จังหวัดอุทัยธานีเริ่มคึกคัก โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวนี้ หนีไม่พ้นที่บนพื้นที่สูงของตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ เป็นหมู่บ้านที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางกลาง 700 เมตร ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่โครงการหลวง “โครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ หรือโครงการปิดทองหลังพระ” โครงการไม้เมืองหนาวที่แก่นมะกรูดเกิดขึ้นจากโครงการหลวงร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ที่ตั้งใจจะสร้างอาชีพให้กับชาวเขาเพื่อที่จะไม่ต้องทำลายป่า และจัดทำสวนสวยงามเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในพื้นที่ และได้ซื้อผลิตภัณฑ์จากชาวเขาโดยตรง

โดยได้ประโยชน์ทั้งชาวเขาที่ได้ขายผลิตผลทางการเกษตรโดยไม่ต้องเดินทาง นักท่องเที่ยวก็ได้ประโยชน์จากการซื้อสินค้าได้ในราคาถูก โดยบรรยากาศการเดินทางของนักท่องเที่ยวมีทั้งนักนักเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี และนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร ที่ใช้การเดินทางเพียง 240 กม.ตั้งแต่เช้าวันนี้นักท่องเที่ยวได้

วัดชายทุ่ง จังหวัดชัยนาท ใช้ขวดแก้วสีเขียวกว่าหมื่นขวดทำพื้นใต้ถุนหอสวดมนต์ แทนหินสีมรกต

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.65 ที่วัดชายทุ่ง หมู่ที่ 12 ตำบลดงคอน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท พระสงฆ์ และชาวบ้านช่วยกันทำความสะอาดขวดที่มีสีเขียวจำนวนมาก และทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จากนั้นนำไปโรยบนพื้นก่อนขัดให้ขึ้นเงาสวยงาม แทนหินสีมรกต ซึ่งขวดสีเขียวมีราคาถูกกว่า และส่วนหนึ่งชาวบ้านได้นำมาบริจาคให้กับวัด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำพื้นให้เป็นสีเขียวมรกตทั้งหมด แทนหินสีที่มีราคาแพงกว่า

พระปลัดปกรณ์ โชติปัญโญ รักษาการเจ้าอาวาสวัดชายทุ่ง เปิดเผยว่า เนื่องจากเดิมกุฏิพระถูกไฟไหม้ จึงทำให้พระไม่มีกุฏิอาศัย หลวงพ่อพร้า (วัดโคกดอกไม้) จึงเมตตาสร้างหอสวดมนต์ไว้ให้ แต่ไม่ทันก่อสร้างแล้วเสร็จท่านได้มรณภาพลงเสียก่อน ต่อมาจึงได้ร่วมกับคณะกรรมการวัด และชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างต่อมาเรื่อย ๆ 10 กว่าปีแล้ว


© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top