Saturday, 27 April 2024
บิ๊กตู่

‘บิ๊กตู่’ ชื่นชมเยาวชนเห็นคุณค่าความสำคัญของภาษาไทย ส่งผลงานประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ย้ำขอให้อนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน เอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 6 ธ.ค.ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวคิด “ภาษาจรรโลงใจ” พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณและกล่าวให้โอวาท  ซึ่งนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำผู้ชนะรางวัลเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโล่รางวัล โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมในพิธี

ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติได้ดำเนินโครงการรักษ์ภาษาไทย สานคุณค่าและความสำคัญแห่งความเป็นไทย เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 โดยจัดให้มีกิจกรรมการประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวความคิด “ภาษาจรรโลงใจ” เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติ ให้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ตลอดจนนำไปสู่การร่วมมือร่วมใจทำนุบำรุง ส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติไทยให้คงอยู่ตลอดไป อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิตและนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางทักษะการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง งดงาม โดยสร้างสรรค์ออกมาในเชิงศิลปะ รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป

‘บิ๊กตู่’ หารือ ลอร์ดโพลแห่งเบย์สวอเตอร์ ชื่นชมพลวัตในความสัมพันธ์ไทย-สหราชอาณาจักร พร้อมเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ลอร์ดโพลแห่งเบย์สวอเตอร์ (Lord Powell of Bayswater KCMG) สมาชิกสภาขุนนางสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่ได้พบหารือกับลอร์ดโพลแห่งเบย์สวอเตอร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนเก่าที่มีความใกล้ชิด ได้พบหารือร่วมกันในหลายโอกาส พร้อมทั้งชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรที่แน่นแฟ้นและยาวนาน โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าการหารือในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมพลวัตในความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงเป็นที่รักและเคารพของปวงชนชาวไทย

‘บิ๊กตู่’ เดินทางถึงกรุงบรัสเซลส์แล้ว เตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ‘เผย’ มีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้นำ 5 ประเทศ

เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 12 ธ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นของกรุง บรัสเซลส์ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และภริยา พร้อม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ เดินทางถึงท่าอากาศยานกรุงบรัสเซลส์  ราชอาณาจักรเบลเยียม เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป (ASEAN-EU Commemorative Summit) ระหว่างวันที่ 12-15 ธันวาคม 2565 จากนั้นเดินทางเข้าโรงแรม Steigenberger Wiltcher’s กรุงบรัสเซลส์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก

พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากมีภารกิจในการเข้าร่วมประชุมครั้งนีัแล้ว ยังเป็นการฉลองครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรปด้วย โดยถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในรอบ 45 ปี ในกรอบของอาเซียนที่มีการประชุมระหว่างผู้นำหรือผู้แทนอาเซียน 9 ประเทศ กับผู้นำหรือผู้แทนประเทศในสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ เป็นโอกาสสำคัญที่ผู้นำทั้งสองภูมิภาคทั้งอาเซียนกับสหภาพยุโรปจะได้พบปะแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้แม้จะมีการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ แต่ก็เป็นเพียงการพบกันระหว่างผู้นำอาเซียนกับประธานคณะมนตรียุโรป และประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเท่านั้น จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ผู้นำทั้งสองภูมิภาคทั้งอาเซียนกับสหภาพยุโรป

‘ประยุทธ์’ หารือประธานคณะมนตรียุโรป ส่งเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง รวมทั้งความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

เมื่อเวลา 16.20 น. ของวันที่ 13 ธ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์) ที่อาคาร Europa กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบหารือกับนายชาร์ล มีแชล (H.E. Mr. Charles Michel) ประธานคณะมนตรียุโรป ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีที่การประชุมสุดยอดอาเซียน-EU สมัยพิเศษ เป็นครั้งแรกที่ผู้นำอาเซียนและประเทศสมาชิก EU มาประชุมกัน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ EU มียุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในอินโด-แปซิฟิก เพิ่มบทบาทและปฏิสัมพันธ์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกับอาเซียนและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมทั้งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในความสัมพันธ์ไทย-อียูด้วย โดยกำลังจะลงนาม PCA ที่สองฝ่ายจะใช้เป็นแผนความร่วมมือระหว่างกันต่อไป

ไทยพร้อมเป็นหุ้นส่วนของ EU บนพื้นฐานค่านิยมร่วม ทั้งพหุภาคีนิยมที่ครอบคลุม ระเบียบระหว่างประเทศที่อิงกฎเกณฑ์ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ธรรมาภิบาล และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทั้ง EU และประเทศสมาชิกในการนำแผนปฏิบัติการอาเซียน-อียู ปี ค.ศ. 2023-2027 และ PCA ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ที่เท่าเทียมกันของสองฝ่ายต่อไป ไทยพร้อมร่วมงานกับท่านอย่างใกล้ชิด เปิดรับต่อการปรึกษาหารืออย่างสร้างสรรค์ และพร้อมปฏิสัมพันธ์กับทุกหน่วยงานของ EU

ด้านประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวยินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ EU และยินดีที่ไทยและ EU จะได้ลงนามร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Thai-EU Partnership and Cooperation Agreement: Thai-EU PCA) ซึ่งจะเป็นกรอบในการเดินหน้าความร่วมมือต่าง ๆ ต่อไปอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐบาล อวดภาพรวม นโยบายแก้หนี้ครัวเรือน ยัน เดินหน้าต่อ เพื่อ ศก.ภาพรวม

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินการ “ปี 2565 ปีแห่งการแก้หนี้” ภายใต้นโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ให้ทุกส่วนราชการ สถาบันการเงินภาครัฐและเอกชน ร่วมแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนให้ได้อย่างจริงจังนั้น ทำให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดพบว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในไตรมาส 2 ปี 2565 เหลือ 88.2%  ลดลงจากไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ 89.1% และไตรมาส 4 ปี 2564 ที่สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP สูงถึง 90% โดยหนี้ครัวเรือน 4 อันดับแรกยังคงเป็น 1.) เงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 34.6 ของหนี้ครัวเรือนรวม 2.) เงินกู้เพื่อการบริโภคอุปโภคส่วนบุคคลสัดส่วนร้อยละ 28.0 ของหนี้ครัวเรือนรวม 3.) เงินกู้เพื่อการประกอบธุรกิจ สัดส่วนร้อยละ 18.2 ของหนี้ครัวเรือนรวม และ 4.) เงินกู้เพื่อซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์/ รถจักรยานยนต์ สัดส่วนร้อยละ 12.3 ของหนี้ครัวเรือนรวม

นายธนกร กล่าวว่า รัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนผ่านมาตรการต่าง ๆ ได้แก่

1.) การแก้ปัญหาหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยปฏิรูปรูปแบบการชำระหนี้ อาทิ การปรับปรุงรูปแบบการจ่ายชำระหนี้คืน จากรายปีเป็นรายเดือน ชำระคืนค่างวดแบบเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือน ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระจาก 15 ปี เป็น 25 ปี  ปรับปรุงลำดับการตัดชำระหนี้ โดยนำไปตัดเงินต้นก่อน แล้วจึงตัดดอกเบี้ย ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ เหลือร้อยละ 2 ต่อปี เป็นต้น

2.) การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เช่น การประกาศกรอบอัตราค่าใช้จ่ายในการทวงถามหนี้ ที่ช่วยคุ้มครองลูกหนี้ไม่ให้ถูกเรียกเก็บเงินในการทวงถามหนี้เกินความจำเป็น

3.) การแก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการโดยเฉพาะข้าราชการครู ยุบยอดหนี้โดยใช้ทรัพย์สินและรายได้ของครูในอนาคต เพื่อให้ยอดหนี้ลดลงและสามารถชำระคืนได้จากเงินเดือน การปรับดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลดลงเหลือไม่เกินร้อยละ 5

4.) หนี้สินข้าราชการตำรวจ การขอความร่วมมือสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 พักชำระหนี้เงินต้น ปรับลดอัตราการถือหุ้นรายเดือน จัดทำโครงการปล่อยเงินกู้ระยะสั้นดอกเบี้ยต่ำ และการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้

5.) การปรับลดและทบทวนโครงสร้างและเพดานอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม และการออกมาตรการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกหนี้ กระทรวงการคลังปรับลดเพดานเงินกู้สินเชื่อ PICO Finance เหลือร้อยละ 33 จากร้อยละ 36 ธปท. สนับสนุนการรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้

และ 6.) การปรับปรุงขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม มีการจัดตั้งศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจและการเงิน เน้นไกล่เกลี่ยข้อพิพาทผ่านระบบออนไลน์ โดยประชาชนสามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองหรือผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์

รอยยิ้มบริสุทธิ์!! 'บิ๊กตู่' ปลื้ม!! ‘บ้านที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก’ รุดหน้า ส่งมอบหลังแรกให้ครอบครัวเด็กเปราะบางแล้ว

(20 ธ.ค.65) ทำเนียบรัฐบาล นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน, นายเอกศักดิ์ โตสิงห์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี, นางวาสนา ทองสม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยคณะนักดนตรีมูลนิธิบ้านพระพร เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อจัดพิธีมอบป้ายของขวัญปีใหม่ ‘บ้านที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก’ และกิจกรรมบรรเลงดนตรีสากล ‘แซกโซโฟน’ จากเด็กและเยาวชนในความดูแลของมูลนิธิบ้านพระพร

นายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการซ่อม เสริม สร้าง บ้านที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก จัดให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก การสร้างสภาพแวดล้อม สร้างโอกาสจะทำให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ เพราะเด็กในวันนี้จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของประเทศไทย ขอให้ พม. ดำเนินการช่วยเหลือตามแผนของโครงการอย่างเต็มที่ และขอแสดงความยินดีกับครอบครัวที่ได้รับบ้านหลังแรกของโครงการถือเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ โดยขอให้ทุกคนพบเจอกับความสุขในบ้านใหม่หลังนี้

ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ 'อนุทิน' กั๊กตอบ ปมเป็นองค์ประชุมอภิปรายทั่วไป ชี้ สภาทำงานต่อไปได้ หากไร้กลเกมการเมือง

วันที่ 6 ก.พ. 66 เวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโพลหลายสำนักที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเมืองในช่วงนี้ ว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมอยู่ตลอดและช่วงสุดสัปดาห์ก็เดินสายลงพื้นที่ และจะมีการทยอยเปิดตัวผู้มาร่วมงานกับพรรคตลอดเวลา

ขณะนี้ยังมีเวลา เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยังไม่ได้ยุบสภา และคาดว่าว่าจะมีการเลือกตั้งในต้นเดือน พ.ค.นี้ แต่ถ้ามีการยุบสภาจะมีเวลา 30 วัน ในการสมัครเป็นสมาชิกพรรค แต่ถ้าไม่ยุบสภา จะมีเวลา 90 วัน แต่คิดว่าจะมีการยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้ยุบสภา เพราะเห็นว่าสภาไม่สามารถทำหน้าที่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าไม่มีการเล่นเกมทางการเมือง สภาก็ทำงานได้ ส.ส. ส่วนใหญ่ยังมาประชุม ขึ้นอยู่กับว่าจะแสดงตัวหรือไม่ ทั้งนี้เวลาที่กฎหมายกัญชา-กัญชง เข้าสู่การพิจารณา ยังมี ส.ส.หลายคนไม่แสดงตน พรรคภูมิใจไทยจึงต้องมีท่าทีออกมาบ้าง

เมื่อถามว่าท่าทีของพรรคภูมิใจไทย จะมีผลกระทบกับการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องถาม ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เพราะปล่อยให้เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส. เพราะร่างกฎหมายที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เช่น ร่าง พ.ร.บ.กัญชา-กัญชง ที่ตั้งใจทำมาอย่างดี แต่มาเจอเกมการเมือง ในการพิจารณาวาระ 2 จึงต้องดูตรงนี้ เพราะเราไม่ใช่หมู และการแสดงท่าทีของพรรคภูมิใจไทย จะต้องไม่กระทบกับประชาชน

'อนุทิน' ขอโทษ 'บิ๊กตู่' ปมลูกพรรคหาเสียงเหน็บ ความสงบจบที่ลุงตู่ เป็นเรื่องที่ขายไม่ได้ ลั่น จะไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นอีก

(7 ก.พ.66) เวลา 08.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ขึ้นปราศรัยหาเสียง ในระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตอนหนึ่งว่า ครั้งที่แล้วเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ตอนนี้ความสงบมีเกินไปแล้ว ถ้าจะให้คนเดิมบริหารประเทศ ว่า เวลามีการหาเสียงก็คงพูดไปแบบนั้น แต่ตนจะไปเตือนนายศุภชัย ย้ำว่าการหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยไม่มีพูดถึงพรรคอื่น โดยแจ้งให้สมาชิกในพรรครับทราบว่า ให้พูดแต่เรื่องที่พรรคภูมิใจไทย ต้องการสื่อสารกับประชาชน และจะทำอะไรให้ประชาชน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นและพรรคอื่น

เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์​โอชา​ นายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​กลาโหม​ในเรื่องนี้​ ในที่ประชุม​คณะรัฐมนตรี​ หรือไม่​ นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ฝากขอโทษผ่านสื่อไปยังนายกรัฐมนตรี​ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเจตนารมณ์​ของพรรคภูมิใจ​ไทย​ที่จะพูดถึงบุคคลอื่น

“ผมต้องขอโทษในการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนของผม ไปยังลูกพรรค ผมขอโทษแทน และจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก และกราบขอโทษนายกฯ ด้วย วันนี้เจอกับนายกฯ ในที่ประชุม ครม. ก็ต้องไปขอโทษท่าน เพราะเวลาขึ้นเวที มีบทเพลงพาไป แต่ไม่ใช่เป็นเจตนารมณ์ของพรรคภูมิใจไทย และหัวหน้าพรรคได้ย้ำแล้วว่า ห้ามพูดถึงคนอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดดังกล่าวจะเป็นปัญหาในรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เป็น และพรรคภูมิใจไทยก็โดนพรรคอื่นใส่มาเต็ม ๆ เหมือนกัน จริง ๆ ถ้าไม่คิดมากเรื่องนี้เป็นปกติทางการเมือง แต่ตนคิดว่าการขัดแย้งในบ้านเมืองหรือพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี ไม่ใช่สไตล์การทำงานของตน


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top