Sunday, 28 April 2024
Klang Time Team

29 ตุลาคม ของทุกปี วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ร่วมตระหนักในคุณค่าภูมิปัญญาประจำชาติ

วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวัน 'ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ' เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ที่ทรงจารึกตำราแพทย์แผนไทยให้เป็นภูมิปัญญาของชาติ

เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม แก่ปวงชนชาวไทยนานัปการ พระราชกรณียกิจที่สําคัญในการรวบรวมองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยมาเผยแพร่ในวงกว้าง ทําให้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยเป็นรากฐานของชาติไทย และตามหลักฐานจารึกแผ่นศิลาว่าด้วยการปฏิสังขรณ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ครั้งรัชกาลที่ 3 จ.ศ. 1193 ตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2374

เทรลเลอร์บรรทุกทรายทับ ส.อบต.หญิงดับคาคาล้อหน้ากลางสี่แยกไฟแดงป่าโมก

เทรลเลอร์บรรทุกทรายทับ ส.อบต.หญิง ดับคาคาล้อหน้า ที่สี่แยกไฟแดงป่าโมก เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาสาเหตุ สอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์

วันนี้ ( 28 ต.ค.) ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ ใจเที่ยง รองสารวัตรสอบสวน สภ.ป่าโมก ได้รับแจ้งเหตุรถเทรลเลอร์บรรทุกทรายชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณสี่แยกไฟแดงป่าโมก หมู่ 5 ตำบลบางปลากด อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง จึงเข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลป่าโมก และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

ในที่เกิดเหตุพบรถเทรลเลอร์บรรทุกทราย หมายเลขทะเบียน 86-33691 จอดอยู่บริเวณสี่แยกไฟแดง มุ่งหน้ายังยังทางอำเภอบางประหัน และที่บริเวณด้านหลังล้อหน้าพบมีผู้หญิง สวมเสื้อสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีขาวดำ นอเสียชีวิตอยู่ด้านหลังล้อหน้าฝั่งซ้าย และพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 2กก 1396 นครศรีธรรมราช ล้มอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาว่า นางสาว กุลกัลยา ประสมการ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบางประหัน

ส่วนคนขับรถเทรลเลอร์บรรทุกทราย ทราบชื่อว่า นายสราวุฒิ เชิดโฉม อายุ 27ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนขยายผลถึงสาเหตุในการเฉี่ยวชนจนทำให้เสียชีวิต พร้อมสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งอย่างแท้จริง ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9650000103279

หนาวแน่! หนาวกว่าปีที่แล้ว เริ่ม 29 ต.ค. เหนือ-อีสานต่ำสุด 8-10 องศาฯ ส่วนกรุงเทพฯ ต่ำสุด 17 

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าสู่ฤดูหนาว เริ่ม 29 ตุลาคม 2565 ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ช่วงอากาศหนาวเย็นที่สุด คือ ธันวาคม-มกราคมปีหน้า หนาวสุด ที่ จ.เชียงราย น่าน สกลนคร และนครพนม ลอยกระทงอากาศดี ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 ดร.ชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ประจำปี 2565 ซึ่งเริ่มต้นช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลมชั้นบนระดับล่าง รวมถึงเกณฑ์ของอุณหภูมิและปริมาณฝนในตอนบนของประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฤดูหนาวในปีนี้ จะเริ่มขึ้นในวันที่ 29 ต.ค. 2565 และจะสิ้นสุดฤดูในช่วงกลางเดือน ก.พ.2566

โดยบริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 20-21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณประมาณ 0.5 องศาฯ (ค่าปกติ 19.9 องศาฯ) แต่จะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 21 องศา) บริเวณตอนบนของประเทศอย่างภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิต่ำสุด 8-9 องศาฯ โดยเฉพาะ จังหวัดเชียงราย น่าน สกลนคร และนครพนม

ส่วนกรุงเทพมหานคร อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาฯ และปริมณฑล 15-16 องศาฯ ช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นที่สุด จะเริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 ถึงปลายเดือน ม.ค. 66

ดร.ชมภารี แถลงอีกว่า บริเวณภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวัน ส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือน พ.ย.และ ธ.ค. กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่

คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะ ๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในช่วงเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมอาจจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ อาจเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งความสูง 3–4 เมตร ขอให้ประชาชนติดตามประกาศแจ้งเตือนจากกรมฯ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งควรระวังอันตรายที่อาจเกิดจากพายุหมุนเขตร้อน น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไว้ด้วย

ในช่วงเทศกาลลอยกระทง (8 พ.ย.) ที่จะถึงนี้ บริเวณประเทศไทยตอนบนจะเริ่มมีอากาศเย็นเกือบทั่วไป ส่วนภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกจะมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนตกชุกหนาแน่นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง มีโอกาสจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสภาพอากาศและติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

เตาเผาถ่านโบราณบ้านเขายี่สาร สมุทรสงคราม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

เตาเผาถ่านโบราณบ้านเขายี่สาร จ.สมุทรสงคราม ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ปัจจุบันมีกลุ่มคนอยู่อาศัยสืบทอดกันมาไม่น้อยกว่า 800 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สงบร่มเย็นและสืบทอดวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบชาวบ้านที่น่าสนใจและน่าไปท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

บ้านเขายี่สาร เป็นชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ในตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นหมู่บ้านที่มีกลุ่มคนอยู่อาศัยสืบทอดกันมาไม่น้อยกว่า 800 ปี ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเขายี่สารสงบร่มเย็นและสืบทอดวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบชาวบ้านที่น่าสนใจและน่าไปท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยิ่ง

ชาวบ้านยี่สาร นอกจากจะมีอาชีพประมงชายฝั่งแล้ว ส่วนหนึ่งก็มีอาชีพเผาถ่านไม้โกงกางขาย มีการสร้างเตาเผาถ่านขนาดใหญ่และมีการปลูกป่าโกงกางแบบหมุนเวียน เพื่อตัดไม้มาเผาเป็นถ่าน จึงไม่ถือเป็นการตัดไม้ทำลายป่าหรือสร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมแต่อย่างใด

คุณป้าทองปรุง ดรุณศรี อายุ 80 ปี เจ้าของเตาเผาถ่านโบราณรายใหญ่ในตำบลยี่สาร บอกว่า เกือบร้อยปีแล้วที่ชาวบ้านเขายี่สารพบว่าไม้โกงกางที่มีมากในพื้นที่ สามารถใช้เผาเป็นถ่านได้ดี ไฟแรง ให้ความร้อนสูง ขี้เฒ่าน้อย ไม่แตกปะทุและไม่มีควัน

ที่สำคัญระยะเวลาการเผาไหม้นานกว่า 2 ชั่วโมง หรือนานกว่าถ่านไม้ธรรมดาถึง 2 เท่า จึงมีการปลูกไม้โกงกางในที่ดินของเอกชน หรือที่ดินของตนเองเพื่อใช้ป้อนเตาเผาถ่านกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยไม้โกงกางที่ใช้เผาถ่านจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 10  ปีขึ้นไปเมื่อไม้เติบโตได้ขนาดแล้วชาวบ้านจะตัดให้ได้ความยาวท่อนละประมาณ 1.30 เมตร เรียกว่า "ไม้หลา" แล้วทุบเปลือกออกเพื่อเวลาเผานอกจากจะได้ไม่มีควันแล้วถ่านยังมีสีสวยอีกด้วย ส่วนไม้ที่เป็นกิ่งเล็ก ๆ และรากโกงกางก็ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเผาถ่านได้อีกด้วย

สำหรับตาเผาถ่านนั้น ลักษณะเป็นการก่ออิฐมอญทนไฟ เตาหนึ่งใช้อิฐประมาณ 40,000 ก้อน ลักษณะเตาโค้งเป็นรูปโดมมีปล่องระบายควัน จำนวน 5 ปล่อง มีช่องด้านหน้าที่สามารถปิดเปิดได้เพื่อนำไม้ที่จะเผาเข้าเรียงและเป็นช่องนำถ่านที่เผาเสร็จแล้วออก นอกจากนี้ยังมีโรงเรือนหรือที่เรียกกันว่า "โรงถ่าน" จะนิยมสร้างด้วยไม้ไผ่หลังคามุงจากคลุมเตาเผาถ่านเพื่อช่วยระบายความร้อนอีกทั้งยังกันฝนได้ดีและมีความคงทนประมาณ 40-50 ปี ส่วนค่าใช้จ่ายในการสร้างเตาเผาถ่านแต่ละเตานั้น ปัจจุบันอยู่ที่เตาละประมาณ 400,000 บาทเศษ

คุณป้าทองปรุง บอกว่า การเผาถ่าน เตาหนึ่งต้องใช้ไม้โกงกางประมาณ 10,000 ท่อน โดยใช้ไม้ขนาดใหญ่วางเรียงเป็นแบบตั้ง เรียกว่า “ไม้ตั้ง” ส่วนไม้ขนาดเล็กวางเรียงเป็นแนวนอน เรียนว่า "ไม้ซ้อน” จนเต็มเตาแล้วจึงปิดประตูเตาด้วยการก่ออิฐจนเหลือช่องขนาดเล็กสำหรับใส่ไฟการใส่ไฟจะใส่ตลอดเวลาของการเผาถ่านซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 12 วัน หลังจากนั้นจึงเปิดเตาทิ้งไว้เมื่อถ่านในเตาเย็นลงจึงลำเลียงออกมา โดยหนึ่งเตาจะได้ถ่านคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 6,000 กิโลกรัม หรือ 6 ตัน อดีตมีผู้ซื้อมารับซื้อถึงที่และส่วนหนึ่งส่งไปขายที่กรุงเทพฯ ร้านอาหาร ร้านปิ้งย่าง และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..

28 ตุลาคม พ.ศ.2539 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป เสด็จเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

วันนี้ เมื่อ 26 ปีที่แล้ว สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานพระราชอาคันตุกะ ในหลวง รัชกาลที่ 9

วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2539 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ให้การถวายเลี้ยงพระกระยาหารค่ำแด่สมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เสด็จเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะพระราชอาคันตุกะ ในระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 เนื่องในโอกาสปีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งถือเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชสมบัติเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

'ดารานักแสดง' ร่วมแสดงความยินดีกับ 2 ผู้บริหารสถาบัน 'เสน่ห์มายา ปั้นหน้าเปลี่ยนชีวิต' หลังจัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ที่ร้านเสน่ห์มายา ปั้นหน้าเปลี่ยนชีวิต ซ.มังกร-นาคดี ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ นำโดย อาจารย์สุภาวดี แสงสูงเนิน พร้อมด้วย อาจารย์ธีร์ นันทวริศ 2 ผู้บริหารสถาบันเสน่ห์มายา ปั้นหน้าเปลี่ยนชีวิต และคณะกรรมการ จัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เปิดมงคลมหาบารมีพระแม่ธรณี ซึ่งในพิธีดังกล่าวมีการสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา รวมถึงการลงนะหน้าทอง นะเมตตา นะเสน่ห์มายา 

โดย ท่านอาจารย์ สัมพันธ์ กำบังภัย โหราศาสตร์แห่งบ้านโหรา ให้ความเมตตาเป็นเจ้าพิธี พร้อมด้วย อาจารย์สายมู ลูกแก้ว สื่อผ่านจิต อาจารย์วิโรจน์ ตลอดจน แขกผู้มีเกียรติและเหล่าศิลปินดาราร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

เพื่อเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตนเอง นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมในพิธี พร้อมทั้ง ให้ความรู้และคำแนะนำสำหรับบุคคลที่กำลังมีความทุกข์ พร้อมทั้งเปิดดวงชะตา แก้ไขดวงชะตาให้กับกลายเป็นดี โดยรสถาบันเสน่ห์มายา มนตราแห่งมายา ปั้นหน้าเปลี่ยนชีวิต คืนความอ่อนเยาว์ ย้อนเวลาผิวให้คุณ ด้วยศาสตร์ชะลอวัย

นอกจากนี้ภายในงาน ยังมีนางแบบและพริตตี้สาวชื่อดังออฟฟี่ แม็กซิม หรือ ออฟฟี่ อรพรรณ ด่านศิริวัฒนกุล ที่เดินทางมาร่วมในพิธี อีกทั้ง ยังได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับทางสถาบันเสน่ห์มายา ปั้นหน้าเปลี่ยนชีวิต อีกด้วย


คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

บาร์เบอร์ ตัดผมกลางป่า นอนสระผมบนแคร่ ท่ามกลางธรรมชาติ

หนุ่มช่างตัดผม ทนค่าใช้จ่ายในเมืองไม่ไหว หันมาเปิดร้านตัดผมกลางป่า กลับได้รับความนิยมจากลูกค้า ใช้โซลาร์เซลล์ นอนสระผมบนแคร่ ท่ามกลางธรรมชาติที่ราชบุรี

วันที่ (27 ต.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบร้านตัดผมร้านหนึ่ง ซึ่งเปิดอยู่ริมถนนบางบ่อ - ห้วยม่วง ม.7 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นเขตป่าชุมชนบ้านบ่อเก่าบน โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ

เมื่อไปตรวจสอบ พบว่า ร้านดังกล่าวชื่อ 'กลางป่าบาร์เบอร์' ของ นายบดินทร์ วัฒน์วดี อายุ 44 ปี จากการสำรวจภายในร้าน พบว่าตัวร้าน เตียงนอนให้ลูกค้าสระผม ทำจากแคร่ไม้ไผ่ ถึงแม้ร้านจะดูเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่ช่างตัดผมนั้นระดับมืออาชีพ เพราะสามารถตัดทรงผมได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ไม่ว่าจะรองทรง วินเทจ หรือจะทรงอะไร ช่างก็สามารถตัดได้ทุกทรง แถมยังมีบริการ ย้อมผม โกนหนวด โกนเครา แคะหู และสระผม โดยคิดค่าบริการไม่แพง

นายบดินทร์ เจ้าของร้าน เล่าว่า ทำอาชีพตัดผมมากว่า 10 ปี โดยเปิดร้านอยู่แถวตัวเมือง อ.สวนผึ้ง จนช่วงโควิด-19 สู้ค่าเช่าไม่ไหว เพราะลูกค้าลดลง รายได้ไม่พอจ่ายค่าเช่าร้าน จึงย้ายมาเปิดร้านตัดผมในป่าชุมชนหมู่บ้าน บ้านบ่อเก่าบน ซึ่งลูกค้าขาประจำส่วนใหญ่อยู่แถวนี้ โดยตั้งชื่อว่า 'กลางป่าบาร์เบอร์'

INFLUENCER TRIP BY PTT ก้าวผ่าน…สู่อนาคต

#บทพิสูจน์ความตั้งใจในการขยายระบบนิเวศEV
#ขับเคลื่อนทุกวิถีชีวิตด้วยพลังงานแห่งอนาคต

ถือเป็นอีกภารกิจใหญ่ของ ปตท. ในการเป็นอีกส่วนสำคัญเพื่อช่วยขับเคลื่อนประเทศ ด้วยการก้าวสู่เส้นทางธุรกิจแห่งอนาคตอย่าง ธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกใหม่ เพื่อแก้ปัญหามลภาวะ และให้ความสำคัญกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) โดยล่าสุดได้มีการตอกย้ำความชัดเจนนี้อีกครั้ง ผ่านงาน INFLUENCER TRIP BY PTT ก้าวผ่าน…สู่อนาคต ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ณ ปตท. สำนักงานใหญ่ ซึ่งงานนี้พร้อมเพรียงไปด้วยเหล่าบรรดา INFLUENCER มากมาย พร้อมบรรดาสื่อหลากแขนง ที่มารวมตัวพบปะภายในงาน เพื่อพูดคุยและนำพาสังคมไทยก้าวผ่านไปสู่อนาคตอันยิ่งใหญ่

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่ม ปตท. ให้ความสำคัญกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) อย่างมาก จึงเน้นให้มีการดำเนินธุรกิจด้วยการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ตามเทรนด์หลักที่สำคัญของโลก 2 ด้าน คือ Go Green และ Go Electic ภายใต้วิสัยทัศน์ 'Poweiing Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต' 

โดยมุ่งสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ไฟฟ้าและยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร รวมถึงต่อยอดนวัตกรรมและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน

ทั้งนี้ หากหันมามองด้านธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความสนใจในระดับสากลนั้น กลุ่ม ปตท. เล็งเห็นแนวโน้มการใช้งานที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและภูมิภาค จึงมุ่งวางรากฐานขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Value Chain) ให้ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์ให้กับประเทศไทย รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐาน และการให้บริการแบบครบวงจรของยานยนต์ไฟฟ้า สนับสนุนให้คนไทยใช้พลังงานสะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ในปี 2065

นั่นจึงทำให้ ปตท. จัดตั้ง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ขึ้น เพื่อรองรับการขยายฐานธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา EV Ecosystem ทั้งของ ปตท. และของประเทศไทยให้ครบวงจร อีกทั้งทำหน้าที่ประสานการลงทุนกับบริษัทในกลุ่ม ปตท. ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงร่วมลงทุนกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อันจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการใช้ EV อย่างแพร่หลายในประเทศไทย พร้อมทั้งขับเคลื่อนไทยให้เป็นฐานการผลิต EV

ขณะที่ บริษัท ฮอริษอน พลัส จำกัด (HORIZON PLUS) บริษัทร่วมทุนระหว่าง อรุณ พลัส และ บริษัท หลินยิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์ (Foxconn Technology Group) ที่ได้มีการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัท JV ARUN PLUS ถือหุ้น 60% Foxconn 40% เกิดขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและประกอบรถยนต์ครบวงจรรูปแบบใหม่ด้วยเทคโนโลยี MIH Platform หรือ Open EV Platforn ซึ่งเป็นโครงช่วงล่างของตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งให้เข้ากับรถยนต์ได้หลายประเภท สามารถช่วยแบรนด์รถยนต์ลดค่าใช้จ่าย, ลดระยะเวลาในการพัฒนา และผลิตรถยนต์แต่ละรุ่นออกมาในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ HORIZON PLUS นี้ จะตั้งบนพื้นที่ 313 ไร่ ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัด ชลบุรี เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) (คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2024) เฟสแรกจะดำเนินการด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการก่อสร้างโรงงานคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมผลิต EV สู่ตลาดภายในปี 2567 ในระยะแรกมีกำลังการผลิตที่ 50,000 คัน

อัปเดตราคา 'หมู-เนื้อ-ไก่'

อัปเดตราคาอาหารสดวันนี้ มาดูกันว่าตามท้องตลาด ราคาอาหารสด ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2565 จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น ราคาหมู ราคาไก่ ราคาไข่ไก่ รวมไปถึงราคาผักสด เช็กกันเลย..


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top