Saturday, 27 April 2024
ECONBIZ NEWS

ม.มหิดล จับมือ อินโนบิก ผลิตซอสจากผัก ทานพอเหมาะ ลดเสี่ยงรับสารก่อมะเร็ง

สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล จับมือ อินโนบิก ผลิตและจำหน่ายซอสจากผัก ภายใต้โครงการวิจัย ‘ซอสซ่อนผัก’ นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพ

สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ร่วมลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย ‘ซอสซ่อนผัก’ และ ‘ซอสซ่อนผักสูตรเด็ก’ นวัตกรรมคิดค้นและพัฒนาโดยนักวิจัย สถาบันโภชนาการ อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามิน, แร่ธาตุ เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และใยอาหาร เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว และเด็ก ๆ ที่อาจไม่ชอบรับประทานผักได้มีสารอาหารที่เพียงพอ รวมถึงยังเป็นทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพอีกด้วย 

สำหรับงานวิจัย ‘ซอสซ่อนผัก’ นั้น ได้รับการยอมรับโดยได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการในต่างประเทศ จากผลการทดสอบในกลุ่มผู้นิยมบริโภคอาหารปิ้งย่าง เพื่อศึกษาการกำจัดสารก่อมะเร็งออกจากร่างกาย ที่มักปนมากับส่วนที่ไหม้เกรียมจากการปิ้งย่าง พบว่าการรับประทานซอสซ่อนผักในปริมาณพอเหมาะ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการได้รับสารก่อมะเร็งได้อีกด้วย

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า อินโนบิก (เอเซีย) ดำเนินธุรกิจโภชนาการทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วย และโภชนเภสัช โดยมุ่งเน้นการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ร่วมกับพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมดูแลสุขภาพของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม ให้มีโภชนาการที่ดีและป้องกันโรคต่างๆ  ที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการบริโภคตามวิถีชีวิตสมัยใหม่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในอนาคต 

ทั้งนี้ เรื่องโภชนาการถือเป็นสาเหตุหลักของความมั่นคงทางด้านสุขภาพและอาหารที่อินโนบิกให้ความสำคัญ การร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญที่มีศักยภาพด้านการวิจัยอย่าง สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลครั้งนี้ เป็นการต่อยอดนวัตกรรมงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ สู่การสร้างผลิตภัณฑ์ของคนไทย โดยมีแผนการผลิตซอสสูตรต้นตำรับและสูตรสำหรับเด็กที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย นำร่องจำหน่ายผลิตภัณฑ์บรรจุในรูปแบบซอง ตั้งเป้าออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เพื่อเพิ่มทางเลือกการทานอาหารให้กับคนไทยทุกวัย ให้ได้รับประโยชน์ ถูกปาก และสะดวกต่อการรับประทาน อีกทั้งวัตถุดิบในการผลิตซอสซ่อนผักนั้น ยังเป็นผลผลิตจากเกษตรกรไทย ถือเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย

ขยายความเจริญ!! 'ลุงหนู' ไฟเขียว!! ร่างงบฯ ปี 67 แตะ 2.44 แสนล้านบาท ดันเมกะโปรเจ็กต์ หนุนแผนระบบขนส่งคมนาคม

‘อนุทิน’ นั่งหัวโต๊ะไฟเขียวร่างงบประมาณปี 67 กว่า 2.44 แสนล้านบาท ดันโครงการเมกะโปรเจ็กต์ หนุนแผนระบบขนส่งคมนาคม เร่งสรุปผลงบประมาณรายจ่าย ชงสำนักงบประมาณภายใน 27 ม.ค.นี้

24 ม.ค. 2566 – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 คณะที่ 3.2 แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างคำของบประมาณบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ จำนวน 108 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 244,505.6705 ล้านบาท โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันของ 7 กระทรวง 26 หน่วยงาน

ทั้งนี้แบ่งเป็น เป้าหมายที่ 1 จำนวน 11 หน่วยงาน สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.)กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.)กรมเจ้าท่า (จท.) กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) (กรมการขนส่งทางราง (ขร.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) (การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) รวม 88 โครงการ วงเงิน 243,660.1700 ล้านบาท คิดเป็น 99.65% มีโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) M6 บางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี โครงการทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1065 สาย อ.พรานกระต่าย-พิษณุโลก

โครงการพัฒนาทาง และสะพานโครงข่ายทางหลวงชนบท สนับสนุนด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงราย โครงการศูนย์ขนส่งชายแดน จ.นครพนม โครงการปรับปรุงท่าอากาศยาน 16 แห่ง โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต โครงการทางหลวงพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา โครงการออกแบบรายละเอียดงานโยธาโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นต้น

สำหรับป้าหมายที่ 2 จำนวน 15 หน่วยงาน (จท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสภาพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์/กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ/กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน/สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) สถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ม.พะเยา ม.เชียงใหม่ ม.บูรพา และ ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา รวม 20 โครงการ วงเงิน 845.5005 ล้านบาท คิดเป็น 0.35% มีโครงการที่สำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและการให้บริการประชาชนเพื่อรองรับงาน NSW

ปตท. ผุด ‘on-ion’ สถานีชาร์จไฟรถยนต์ EV เต็มรูปแบบ นำร่อง 17 สาขา ศูนย์การค้าเซ็นทรัล

ออน-ไอออน เปิดให้บริการสถานีชาร์จไฟ EV ด้วยพลังงานสะอาดอย่างเต็มรูปแบบแล้ววันนี้ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล 17 สาขา พร้อมเชื่อมต่อความสุข ให้ทุกการเดินทางไม่สะดุด ด้วยจุดบริการทั่วไทย

เมื่อวานนี้ (18 ม.ค. 66) นายเชิดชัย บุญชูช่วย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายโทรณ หงศ์ลดารมภ์ Head of EV Charger Business บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) ร่วมพิธีเปิดให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ภายใต้แบรนด์ ออน-ไอออน (on-ion EV Charging Station) ในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พร้อมให้บริการชาร์จไฟแก่รถยนต์ไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด เชื่อมต่อความสุข เดินทางไม่สะดุด จุดบริการทั่วไทย ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 

on-ion EV Charging Station พร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 17 สาขาได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่, เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต, เซ็นทรัล อยุธยา, เซ็นทรัลบางนา, เซ็นทรัล พระราม 2, เซ็นทรัล วิลเลจ สุวรรณภูมิ, เซ็นทรัล เวสต์เกต, เซ็นทรัล อุดรธานี, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, เซ็นทรัล ศาลายา, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล โคราช, เซ็นทรัล พระราม 3 และ เซ็นทรัล พระราม 9 และพร้อมให้บริการอีก 20 สาขาทั่วประเทศเร็ว ๆ นี้

ร้านขายเสื้อเทศกาลตรุษจีนต้องทำใจ หลังยอดขายเสื้อหล่นฮวบ!

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2566 บรรยากาศตามร้านค้าต่าง ๆ ที่บริเวณตลาดสนามหญ้า เขตเทศบาลเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่เปิดการค้าขายมานานหลายสิบปีแล้ว มีทั้งการจำหน่ายอาหาร ขนมหวานอร่อย และร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามากมาย ปีนี้มีพ่อค้า แม่ค้า ได้นำเสื้อผ้ามาแขวนจำหน่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ มีหลากสีสันให้เลือกทั้งสีแดง สีน้ำเงิน สีทอง ซึ่งเป็นสีมงคลที่คนไทยเชื้อสายจีนนิยมเลือกสวมใส่ เป็นมงคลแก่ตัวเองในเทศกาลตรุษจีน

จากการสอบถามพ่อค้า แม่ค้าหลายแห่งทราบว่าจากปัญหาสถานการณ์โควิด 19 ที่แพร่ระบาดไปนานนับปี ส่งผลกระทบให้การค้าขายเสื้อไม่ดีเท่าที่ควร แม้ช่วงปลายปีที่ผ่านมาจะเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีแล้วก็ตาม และยาวต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเท่าที่ควร

ร้านของเล่นโพธาราม ยอดขายพุ่ง 2 เท่า! รับวันเด็กปี 2566 หลังเว้นไปเพราะโควิด

ร้านขายของเล่นที่โพธาราม จังหวัดราชบุรี ยอดขายพุ่ง 2 เท่า เพราะโรงเรียน และหน่วยงานต่าง ๆ แห่ซื้อของขวัญแจกวันเด็ก หลังที่ผ่านมาโควิด-19 ระบาด ต้องงดไม่ได้จัดมา 2 ปี ขณะที่เด็ก ๆ ก็เฝ้ารอร่วม

วันที่ 13 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ร้านค้าปลีกและค้าส่งเครื่องใช้ภายในบ้าน และของเล่น พบว่ามีสถานศึกษาและหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงประชาชนต่างเดินทางมาจับจ่ายซื้อสินค้า สำหรับเตรียมมอบเป็นของขวัญ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 14 ม.ค. 2566 ที่จะถึงนี้กันเป็นจำนวนมาก

นายอำนาจ ฉัตรวุฒิไกร เจ้าของร้านสำเพ็งโพธาราม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศเริ่มคลี่คลาย ประชาชนก็กลับมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันมากขึ้น โดยเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ยาวมาจนถึงวันเด็ก ทางร้านจึงเพิ่มจำนวนและรูปแบบของสินค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่าตัว เพื่อให้มีความหลากหลายของสินค้าและเพียงพอต่อความต้องการ

ชมพู่เมืองเพชร หวาน ฉ่ำ กรอบ! ประยุกต์สารพัดเมนู สร้างรายได้

(13 ม.ค. 66) ภารกิจตามโครงการ "ฟอร์ดแกร่งทุกงานเกษตร" เดินทางไปชมชมพู่เมืองเพชร หรือชมพู่เพชรสายรุ้ง สินค้าจีไอคู่บ้านคู่เมือง จังหวัดเพชรบุรี ปลูกกันแทบทุกหลังคาเรือน ว่ากันว่าปลูกแค่ 4 ต้น สามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาได้ ด้วยมีราคาค่อนข้างสูง กก.ละ 300-400 บาท แต่ต้องแลกกับต้นทุนที่สูงจากการห่อผลกันแมลง และค้างไม้ไผ่รอบต้น ที่ต้องมีไว้เพื่อการปีนห่อและเก็บผลผลิต จนกลายเป็นอัตลักษณ์หนึ่งเดียวที่ไม่เห็นในไม้ผลชนิดอื่น

“ชมพู่เมืองเพชร สร้างรายได้ดีให้กับชาวบ้าน 1 ต้น เก็บผลผลิตได้ 3-4 ครั้ง เฉลี่ยทำเงินเข้ากระเป๋าเกษตรกรได้ต้นละประมาณ 120,000 บาท รวมถึงสร้างอาชีพใหม่ ๆ เช่น รับจ้างทำค้าง และเก็บผลผลิต ให้กับชาวบ้านปีละนับแสนบาท ซึ่งแต่ละครั้งถ้าอยากได้เกรดพรีเมียมก็ต้องจองกันก่อน เพราะมีผลผลิตส่วนหนึ่งส่งออกไปสิงคโปร์ แต่ปัจจุบันพบปัญหาใหญ่ 2 เรื่อง คือพื้นที่ปลูกลดลงทุกวัน เหลือเกษตรกรปลูกแค่ 152 ราย พื้นที่รวมเหลือเพียง 121 ไร่ เท่ากับเหลือพื้นที่ปลูกเฉลี่ยแค่คนละไม่ถึงไร่ เนื่องจากคนรุ่นใหม่กำลังลืมเลือนสิ่งที่ถูกหล่อหลอมจนกลายเป็นวัฒนธรรม อีกประการคือขาดการแปรรูป รวมถึงเอาลูกที่คัดทิ้งมาใช้ประโยชน์ จึงเป็นการบ้านใหญ่ของพวกเราชาวเมืองเพชร”

นายยุทธนา เมืองเล็ก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี บอกถึงปัญหาของชมพู่เมืองเพชร ที่กำลังสั่งสมเพิ่มขึ้นทุกวัน เรื่องของพื้นที่ปลูกที่ลดลง คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากรณรงค์ให้ชาวบ้านร่วมกันอนุรักษ์ ขณะที่เยาวชนก็รณรงค์ให้รักถิ่นฐาน วัฒนธรรม เพราะชมพู่เมืองเพชรเป็นแหล่งสร้างเงินให้กับทั้งเกษตรกร ชาวบ้าน และเยาวชนที่รับจ้างเก็บผล ขณะที่แรงงานทำค้าง ก็ต้องเป็นแรงงานที่ชำนาญในระดับหนึ่ง เพราะเป็นงานค่อนข้างละเอียด

ตลาดร่มหุบคึกคัก! สมุทรสงครามฟื้นตัว หลังจีนเปิดประเทศ

ผู้ประกอบสมุทรสงครามยิ้ม หลังจีนเปิดประเทศ ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตลาดร่มหุบ ที่ชาวจีนนิยมมาชมการวิ่งเข้าออกของขบวนรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม ที่วิ่งผ่านตลาดสด

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประกาศเปิดประเทศของจีน นับว่าส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสมุทรสงครามเป็นจังหวัดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาท่องเที่ยว เช่น 'ตลาดร่มหุบ' ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ชาวจีนนิยมมาชมการวิ่งเข้าออกของขบวนรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม ที่วิ่งผ่านตลาดสดที่มีการค้าขาย ทั้งอาหารทะเล และพืชผลทางการเกษตรบนรางรถไฟกว่า 300 ร้านค้า จนได้รับการขนานนามว่า “อะเมซิ่งไทยแลนด์” นอกจากนี้ ยังมี 'ตลาดน้ำอัมพวา'  ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมมาเที่ยวชมเช่นกัน

ส่วนสถานที่พัก ร้านอาหาร และร้านค้าต่างเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวชาวจีนกันอย่างคึกคัก โดยนายภาณุมาศ รวมสุข ประธานชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสงคราม บอกว่า ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ทางชมรมร้านอาหารจังหวัดสมุทรสงครามได้เตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นมาตรการรักษาความสะอาด มีเจลแอลกอฮอล์ทุกโต๊ะ มีอ่างล้างมือบริการตามเกณฑ์มาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข และร้านอาหารในชมรมประมาณ 120 ร้าน มีป้าย SHA และ SHA พลัส รับรองความปลอดภัยและได้มาตรฐานเกือบทุกร้าน และเรื่องอาหารทะเลที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา โดยเฉพาะปลาทูสดซึ่งช่วงนี้กำลังอ้วนและมัน ได้รับการรับรองตามมาตรฐานจากสมาคมประมงและตลาดปลาแม่กลอง ปลอดสารพิษทุกอย่าง ไม่มีสิ่งเจือปนใด ๆ ทั้งสิ้น

กรุงเก่าจัดนางรำเกือบ 2,000 คน รำบวงสรวงพระเจ้าอู่ทอง ก่อนเปิดงานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก

ยิ่งใหญ่ตระการตา นางรำชาวพระนครศรีอยุธยา จาก 16 อำเภอ กว่า 1,800 คน พร้อมใจรำบวงสรวงพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ก่อนจัดงาน “งานอยุธยามรดกโลก”

วันนี้ (11 ม.ค. 66) ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมทำพิธีก่อนจะเริ่มการจัด “งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ระหว่างวันที่ 20-29 มกราคม 2566 ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

เพื่อเฉลิมฉลองที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่ปี 2534 จากองค์การยูเนสโก มีการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองในการจัดงาน รวมถึงเป็นการบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ของกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชาวพระนครศรีอยุธยา และได้ยึดถือปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นประจำทุกปี

จากนั้น นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 1,800 คน สวมใส่ชุดไทย รำถวายประกอบการพิธีบวงสรวง ด้วยเพลง “ยอยศพระรามาธิบดีที่ 1” ซึ่งเป็นเนื้อเพลงบวงสรวงที่กล่าวถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) การกำเนิดของกรุงศรีอยุธยา ศิลปวัฒนธรรม และการทำมาค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น

ราชบุรีตื่นตัว! ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีน

ผู้ประกอบการตลาดน้ำดำเนินสะดวกพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศสร้างงานสร้างรายได้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สงกรานต์ พร้อมป้องกันตัวเองไม่หวั่นโควิค

วันนี้ (10 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ได้ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero) โดยผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศไม่ต้องกักตัว โดยเริ่มวันที่ 8 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะตลาดน้ำดำเนินสะดวกที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาชมวิถีชีวิตสองฝั่งคลอง ช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา

ผู้ประกอบทั้งเรือยนต์และเรือพายจำนวนมาก ไปประกอบอาชีพอื่น เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวกระทั่งรัฐบาลได้ประกาศผ่อนปรนการเดินทางเข้าประเทศ ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างทางยุโรปเข้ามาทำให้ทำให้ผู้ประกอบการณ์เริ่มตื่นตัวโดยเฉพาะประเทศจีนยกเลิกนโยบาย Covid Zero

ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการต่างเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว นักท่องเที่ยวจีนมีกำลังซื้อมากจะทำให้เศรษฐกิจในตลาดน้ำดำเนินสะดวกแห่งนี้ดีขึ้นส่วนทางด้านมาตรการป้องกันโควิด-19 จะเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ ป้องกันตัวเองด้วยการฉีดวัคซีน ใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยสบู่และการใช้เจลล้างมือแอลกอฮอล์ตลอดเวลา

นายแก้ว ปลั่งแสงไพฑูลย์ ประธานวิสาหกิจชุมชนตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก เจ้าของเรือไฟฟ้าลำแรกของตลาดน้ำดำเนินสะดวก เผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ท่องเที่ยวเริ่มดีขึ้น ชาวจีนที่กำลังจะเข้ามา ยังไงก็ยังดีกว่าที่เขาไม่มา เศรษฐกิจมันถดถอยมาตั้ง 3 ปีแล้ว ขณะนี้ก็เริ่มดีขึ้น สิ่งที่สำคัญต้องช่วยกันระวังสวมหน้ากากอนามัย ช่วยกันป้องกันทำให้หนักกลายเป็นเบาได้ ที่สำคัญพวกเราต้องระวังกันเอง ช่วยกันใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด จะทำให้ทุกอย่างเบาลง ถ้ากลัวเราก็เดือดร้อนแน่นอน ที่ผ่านมันเงียบสนิทกันมานาน 3 ปีมาแล้ว ช่วงนี้ก็ดีขึ้นมาแล้วถ้าจีนเข้ามาอีกก็จะดีขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน

ไทยผลิต ปืน-กระสุน ได้มาตราฐาน ลดการซื้อของนอกที่ราคาแพงกว่า

เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2566 พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ เยี่ยมชมแหล่งผลิต อาวุธ ยุทโธปกรณ์แห่งแรกของประเทศ ที่บริษัท เนแรค อาร์มส อินดัสตรี จำกัด เลขที่ 119 หมู่ 13 ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยมี พล.อ.วัฒนา นาราคาม อดีตผู้บัญชาการศูนย์อำนายการสร้างอาวุธ และที่ปรึกษาพิเศษกระทรวงกลาโหม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท เนแรค อาร์มส อินดัสตรี จำกัด และผู้บริหารให้การต้อนรับ พร้อมร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนให้บริษัทสามารถนำยุทโธกรณ์ต่าง ๆ จำหน่ายไปยังผู้ที่สนใจและเป็นไปตามข้อกฎหมายที่ถูกต้อง

พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า อุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศจำเป็นต้องเกิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในกับประเทศโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมทางทหารของไทย โดยให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงการยกระดับประสิทธิภาพให้ก้าวทันเทคโนโลยี บนแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี Guideline for Defence Industrial Development Under the 20-Year National Strategy อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ถือเป็นฐานรากสำคัญและเป็นหลักประกันทางด้านความมั่นคงของประเทศ

อีกทั้งยังสัมพันธ์กับห่วงโซ่เศรษฐกิจ นำสู่การขับเคลื่อนประเทศในวิถีใหม่ ซึ่งถือเป็นหลักประกันด้านความเจริญรุ่งเรืองแบบเบ็ดเสร็จ ประเทศชาติต้องอยู่รอดปลอดภัยได้ ในยามสงครามและในสภาวะวิกฤต การเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะการฝึกซ้อมในยามสงบต้องสามารถกระทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อไทยสามารถผลิตอาวุธเองได้ ภายใต้มาตราฐานสากลก็จะช่วยประหยัดงบประมาณ ในการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศได้จำนวนมาก

สำหรับบริษัท เนแรค อาร์มสอินดัสตรี จำกัด เป็นบริษัทฯ ที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ให้ตั้งโรงงานทำ ประกอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนลักษณะอาวุธ เมื่อปี พ.ศ.2553 โดยเริ่มจากการผลิตปลอกกระสุนปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ขนาด 37 มิลลิเมตร Type 74  และ Type76 ปลอกและหัวกระสุนปืน ขนาด 45 นิ้ว ACP ปลอกกระสุนปืนใหญ่ ขนาด 105 มิลลิเมตร กระสุนปืนลูกซองครบนัด ขนาด 12 เกจ และประกอบรวมครบนัด กระสุนปืนพกทุกขนาดที่ได้รับอนุญาต ภายใต้แบรนด์ NRC และในปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ร่วมกับหลายภาคส่วนพัฒนา วิจัย จนสามารถผลิตชนวนหัวลูกระเบิด ขนาด 120 มิลลิเมตร ส่งให้กับหน่วยงานภายในประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่คนไทย สามารถผลิตได้เองและใช้งานได้จริง

ซึ่งบริษัทฯ ได้ยึดมั่นตามแนวทางดำเนินงานตามพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เรื่องการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังเดินตามแนว นโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของรัฐบาล เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตราที่ 65 พึงจัดให้มียุทธศาสตร์เป็นเป้าหมายพัฒนาประเทศ เพื่อขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ


TRENDING
© Copyright 2022, All rights reserved. Klang Time Thailand
Take Me Top